ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) ถูกขนานนามว่าเป็น ‘เจ้าชายแห่งภูเขาหิมะ’ ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเชิงที่ราบสูงทิเบต ที่นี่ถือเป็นที่เที่ยวในฝันของนักท่องเที่ยวหลายคนที่อยากมาเห็นเจ้าชายภูเขาหิมะอันนี้ของจริงกับตาเลยนะ
ถ้าใครที่ได้มาเที่ยวแชงกรีล่า (Shangri-la) แล้ว ก๊อตก็ไม่อยากให้ทุกคนพลาดที่จะขึ้นเหนือมาอีกนิด แล้วมาดูความอลังการงานสร้างของภูเขาลูกนี้กันด้วย ไม่ต้องถึงขนาดไปลำบากปีนภูเขา เพราะรีวิวนี้ ก๊อตจะมานอนห้องพักสบายๆ แถว วัดเฟยไหล (Feilai Temple) เพื่อซึมซับบรรยากาศ จากนั้นค่อยตื่นเช้าๆ มาดูวิวตอนพระอาทิตย์ขึ้น ที่ถือเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวที่นี่นั่นเอง 555555
ทริปยูนนาน ลี่เจียง-แชงกรีล่า-ภูเขาหิมะเหม่ยลี่
สำหรับทริปจีน ลี่เจียง – แชงกรีล่า – ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Lijiang – Shangri La – Meili Snow Mountains) ทริปนี้ ก๊อตใช้เวลาทั้งหมด 7 วัน โดยบินจากกรุงเทพไปคุณหมิง แล้วต่อเครื่องไปลี่เจียง เพื่อไปเที่ยวต่อที่นั้นเลย เวลามันมีจำกัดม๊ากก เสียดายที่ยังไม่ได้เก็บเมืองคุณหมิงและต้าลี่ก่อน ฮือ .. เอาเป็นว่าทริปนี้ เราจะแบ่งรีวิวออกเป็น 3 พาร์ทด้วยกัน เรียงตามนี้เลยเด้อ
1. รีวิว ลี่เจียง (Lijiang)
2. รีวิว แชงกรีล่า (Shangri-La)
3. รีวิว ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains)
และนี่ขอแถมทริปจีนอีกทริปล่าสุดที่ได้ไปมาก่อนหน้าทริปยูนนาน (Yunnan) นี้ ทริปมณฑลเหอหนาน (Henan) คือ เจิ้งโจว – ลั่วหยาง – หยุนไถซาน – ไคเฟิง (Zhengzhou – Louyang – Yuntaishan – Kaifeng) ซึ่งเป็นทริปแรกที่ได้ประเดิมจีนเลย หากใครสนใจ หรือกำลังวางแพลนทริปในมณฑลเหอหนานอยู่ มาตามอ่านได้เล้ย
4. รีวิว เจิ้งโจว (Zhengzhou)
5. รีวิว ลั่วหยาง (Louyang) กำลังเขียน
6. รีวิว หยุนไถซาน (Yuntaishan) กำลังเขียน
7. รีวิว ไคเฟิง (Kaifeng)
วิธีการเดินทางมาภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains)
การเดินทางของก๊อต เพื่อไปยังภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) นั้น เราเริ่มต้นจากการนั่งรถบัสจากแชงกรีล่าไปยังเมืองเต๋อชิง (Deqin) ก่อน
สถานีรถบัสทางไกลที่ก๊อตขึ้น จะชื่อว่า Shangri-La Bus Station (香格里拉汽车客运站) ไปยัง Deqin Bus Station (德钦客运站) โดยใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 4 ชั่วโมง ราคาจะอยู่ที่ ราคาอยู่ที่ 62 หยวน (คิดเป็นเงินไทย ประมาณ 300 กว่าบาทเท่านั้นเอง) รถจะมีประมาณ 5 รอบต่อวัน คือ 8.50 / 10.30 / 12.00 / 14.30 และ 17.30 ยังไงลองเช็คหน้างานอีกทีน้า
พอถึงสถานีรถบัสเมืองเต๋อชิงแล้ว เหมือนเค้าจะมีรถไปต่อนะ แต่วิธีที่ก๊อตแนะนำมากที่สุดคือโบกแท็กซี่แถวนั้น นั่งต่อไปยังโรงแรมที่เราจองไว้ได้เลย ซึ่งถ้าเรานั่งแท็กซี่จะใช้เวลาประมาณ 15 นาที ตรงไปยัง วัดเฟยไหล (Feilai Temple) ที่เป็นจุดชมชมวิวภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) ของเรานั่นเอง
สำหรับขากลับแชงกรีล่า (Shangri-la) นั้น ก๊อตให้ทางโรงแรมหาแท็กซี่ให้ และนั่งจากโรงแรมกลับไปที่สถานีรถบัสที่เมืองเต๋อชิง (Deqin) แล้วค่อยนั่งรถบัสกลับไปที่แชงกรีล่าเหมือนเดิมเด้อ
ที่พักสำหรับดูวิวภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) ที่ดีที่สุด
Once Upon a Time in Meili
ถ้าถามว่าโรงแรมไหนดีสุดในย่านนี้ ก๊อตขอยกให้กับ Once Upon a Time in Meili ซึ่งเป็นโรงแรมเล็กๆ ดูโมเดิร์นกว่าโรงแรมปกติทั่วไป มีจำนวนห้องไม่เยอะมาก แต่ความเด็ดของเค้าคือตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัดเฟยไหล (Feilai Temple) ที่เราสามารถมองได้ทั้งวิววัดเฟยไหลเอง หรือแม้แต่ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) จากห้องเราได้เลย ซึ่งถือว่าดีงามที่สุดของโรงแรมในย่านนี้ ทีนี้ การจองห้อง ต้องจองห้องด้านหน้าด้วยนะ ตอนจะจองก็ต้องดูดีๆ ด้วย ราคาจะแพงกว่าห้องปกตินิดนึง แต่คุ้มค่ามากก
และที่อยากจะบอกมากคือ ใครที่จะมาเที่ยวและนอนค้างคืนแถวนี้ก๊อตแนะนำว่าให้ซื้ออาหาร ขนมกรุบกรอบมาตุนไว้เลย เพราะบริเวณรอบๆ ที่พักของเรามีร้านสะดวกซื้อแค่ร้านเดียวเท่านั้น แถมไม่ได้มีของเยอะน้า ดังนั้น ถ้าทำได้ ตุนมาจากแชงกรีล่าเลยเด้อ
สำหรับก๊อตแล้ว Once Upon a Time in Meili ถือเป็นที่พักที่ก๊อตค่อนข้างประทับใจ ด้วยทำเลและบริการของเค้านั้นค่อนข้างดี ถือเป็นโรงแรมที่โมเดิร์น ดูทันสมัยสุดในย่านนี้ พนักงานสามารถสื่อสารกับเราเป็นภาษาอังกฤษได้ แต่เหตุผลที่ก๊อตแนะนำโรงแรมนี้มากที่สุดคือทำเลที่บอกแล้วหลายรอบว่าปังจริง เห็นเจดีย์จริง ภูเขาหิมะเหม่ยลี่จริง ซึ่งก๊อตโคตรแนะนำให้จองที่นี่เลยจ้า ไม่ต้องเลือกที่อื่นแล้ว 55555
ราคาห้องพักเริ่มต้น 1,450 บาท/คืน ดูเรทและจอง Once Upon a Time in Meili สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย
เอาล่ะ เช็คอินเข้าโรงแรมเรียบร้อย เรามาเที่ยวกัน!
ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains)
ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของ ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) มาตั้งนาน นั่งรถมาก็ไกลแสนไกล ตั้งแต่กลางทางที่เห็นภูเขาหิมะไกลๆ จนรถมาจอดตรง วัดเฟยไหล (Feilai Temple) ที่พอได้มาเห็นกับตาตัวเองแล้วน้ำตาจะไหล นี่คือภูเขาหิมะที่โคตรสวย โคตรยิ่งใหญ่ ถ้าจะพูดว่า “สวยเหมือนภาพวาด” ก็ยังได้ คือสวยจริงง
หลังจากเราเช็คอินเข้าโรงแรมเรียบร้อยแล้ว แพลนการเที่ยวตรงนี้คือไม่มีอะไรเลยของจริง ก็คือแค่มาเดินเที่ยว วัดเฟยไหล (Feilai Temple) จากนั้นเข้าโรงแรม นอนเล่นทั้งวัน และตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นตอนแสงสาดส่องที่ยอดภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) แค่นั้นจริงๆ 5555555 // งั้นเรามาทำความรู้จักภูเขาหิมะเหม่ยลี่กันดีกว่า
ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) เป็นภูเขาหิมะในมณฑลยูนนาน แนวภูเขาอยู่ที่จุดรวมตัวกันของแม่น้ำสำคัญๆ ทั้งหมด 3 สาย คือ แม่น้ำจินซาเจียง (ต้นน้ำของแม่น้ำแยงซีเกียง) แม่น้ำหลั่นซางเจียง (แม่น้ำโขงตอนบน) และแม่น้ำบู่เจียง (แม่น้ำสาละวิน) นี่คือภูเขาที่หลายคนยกให้เป็นภูเขาที่สวยที่สุดในมณฑลนี้และยังถือว่าภูเขาเหม่ยลี่เป็นบุตรแห่งกษัตริย์ทั้ง 13 องค์ เพราะว่ามียอดเขาทั้งหมด 13 ยอด และมียอดที่สูงที่สุด (มีความสูง 6,740 เมตร จากระดับน้ำทะเล) เรียกว่า ‘คาวาเกโป’ ซึ่งในภาษาทิเบตจะแปลได้ว่า ‘ภูเขาหิมะขาว’
มีบางตำนานเล่าว่ายอดเขาคาวาเกโปนั้นเป็นการลงมาจุติของเทพเจ้าทิเบตองค์หนึ่ง ที่จะมาคอยช่วยคนในท้องถิ่นขับไล่วิญญาณร้ายให้ออกไปจากหมู่บ้าน ส่วนอีกตำนานก็บอกว่ายอดเขานี้ตั้งชื่อตามนักบุญอุปถัมป์ในพระพุทธศาสนาของทิเบต ซึ่งก็อตเองก็ไม่รู้ว่าตำนานไหนเป็นเรื่องจริงกันแน่ แต่ที่รู้คือ คนทิเบตนับถือและให้ความสำคัญกับยอดเข้าคาวาเกโปและภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) กันมาก เพราะว่านี่คือภูเขาลูกแรกที่คนทิเบตเค้ายกให้เป็นภูเขาของเทพเจ้า และยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ตามศาสนาพุทธของชาวทิเบตมาถึงทุกวันนี้
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ความน่าสนใจของภูเขาลูกนี้ยังไม่หมด เพราะภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) มีธารน้ำแข็งถึง 4 ที่ แต่อันที่เป็นธารน้ำแข็งใหญ่ที่สุด ฮิตที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยว และเป็นธารน้ำแข็งที่คนท้องถิ่นถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ ธารน้ำแข็งหมิงหย่ง (Mingyong Glacier) เป็นธารน้ำแข็งที่ไหลยาวลงมาตั้งแต่จากบนยอดคาวาเกโป มาถึงความสูงที่ 2,660 เมตร ไหลลงมาไกลมากเวอร์
ถ้าใครมีเวลามากกว่านี้ และอยากไปสัมผัสภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) แนะนำให้ไปดู ธารน้ำแข็งหมิงหย่ง (Mingyong Glacier) ให้เห็นกับตาตัวเองต่อได้เลย เค้ามีเส้นทางที่สามารถจะเดินหรือขี่ม้าขึ้นไปดูได้เลย เค้าทำทางไว้สำหรับการเดินชมธารน้ำแข็งนี้อยู่ แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเป็นอันตรายหรืออะไรนะ เค้าทำทางใกล้ๆ ที่เราสามารถมองเห็นธารน้ำแข็งแบบเต็มตาได้โดยที่เราไม่ต้องไปปีนภูเขาหิมะนะเออ ฮ่าๆ
วัดเฟยไหล (Feilai Temple)
ในเมื่อเรามานอนตรงข้ามวัด วัดเฟยไหล (Feilai Temple) แล้ว การเดินเข้ามาเที่ยววัด ก็ถือเป็นสิ่งที่ห้ามพลาดที่สุดเหมือนกันนะ เพราะเราจะได้เห็นสถูปเจดีย์สีขาว 8 องค์ ตั้งตระหง่านโดดเด่น รวมถึงได้เห็นวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่นี่ด้วย
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมนักท่องเที่ยวหลายคนชอบมานอนปักหลักกันที่นี่ เหตุผลก็เพราะ วัดเฟยไหล (Feilai Temple) เป็นโลเคชั่นที่ดีที่สุดที่เราจะได้เห็น ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) แบบพาโรนามาเต็มสุดลูกหูลูกตาเลยล่ะ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นหรือคนทิเบตเองนิยมมาทำความเคารพบูชาภูเขาเทพเจ้าลูกนี้ เพราะชาวทิเบตยกให้ภูเขาหิมะนี้เป็นหนึ่งในแปดยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ของชาวทิเบต คนท้องถิ่น ไม่ว่าจะจีนหรือทิเบตเอง มีความเชื่อว่าถ้าเกิดใครได้มากราบไหว้ที่นี่ ตอนที่ตายไปจะได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีนั่นเอง
วัดเฟยไหล (Feilai Temple) สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยราชชวงศ์หมิง ส่วนเรื่องตำนานเล่าขานของที่นี่ก็มีเหมือนกัน เค้าบอกกันว่าตอนที่ Nanka Jiequ Rinpoche คนที่สร้างวัดนี้ขึ้นมานั้น นั่งสมาธิอยู่ จู่ๆ เค้าก็ดันเกิดนิมิตบางอย่าง เห็นภาพพระพุทธเจ้ากำลังบินมาจากอินเดียมาหยุดอยู่ที่ยอดเขาคาวาเกโป เค้าก็เลยตั้งชื่อวัดนี้ว่า เฟยไหล หรือแปลได้ว่าวัดบิน (Flying Temple) และตั้งให้วัดนี้หันหน้าเข้าหายอดเขาคาวาเกโปเลย ทำให้ใครๆ ก็ต้องมากราบไหว้ที่วัดนี้ เพราะเหมือนเป็นการได้กราบไหว้ยอดเขาที่พระพุทธเจ้าได้ลงมาประทับนั่นเอง ซึ่งตอนที่ก๊อตไปเที่ยวนั้น ก็เห็นหลายคนแวะเวียนมากราบไหว้ตลอดทั้งวันเลยจริงๆ
ถ้าใครสังเกตเห็นผ้าสีๆ ที่ถูกผูกไว้เต็มรั้วไปหมดนั้น เค้าไม่ได้ผูกเพื่อตกแต่งให้สวยงามนะเว้ย นี่คือการผูกธงสีต่างๆ ตามความเชื่อของชาวทิเบต ที่เชื่อว่าธงแต่ละสีนั้นได้แทนบทสวดมนต์แต่ละคำเอาไว้ เวลาที่ลมพัดธงให้ปลิวไป บทสวดมนต์ก็จะลอยไปรอบๆ เป็นการปกป้องให้ชาวทิเบตนั้นได้อยู่กับธรรมชาติอย่างปลอดภัย ซึ่งธงในแต่ละสีก็จะเป็นตัวแทนของบทสวดมนต์ที่ว่า “โอม มณี ปัท เม ฮุม” ซึ่งมีทั้งหมด 5 คำ 5 สีด้วยกัน สีแดง คือไฟ สีเหลือง คือดิน สีขาว คือเมฆ สีฟ้า คือท้องฟ้า และสีเขียว คือต้นไม้ นั่นเอง
บริเวณลานกลางวัดก็จะมีสถูปเจดีย์สีขาวที่สวยมาย ตั้งเรียงกันไว้ทั้งหมด 8 องค์ และกองแผนหินสลักภาษาทิเบตที่กองทับๆ กัน ทั้งหมดนี้สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นการระลึกถึงนักปีนเขา 17 คนที่พยายามพิชิตยอดเขาคาวาเกโป ในปี 1991 ซึ่งเป็นคนจีน 5 คน และเป็นคนญี่ปุ่นอีก 12 คน (ทั้งหมดเป็นทีมงานและไกด์ท้องถิ่นที่พยายามจะเข้าไปสำรวจพื้นที่ภูเขาหิมะเหม่ยลี่) แต่โชคร้ายที่การพิชิตยอดเขาครั้งนั้นไม่ประสบความสำเร็จ และเหตุการณ์นี้ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์การปีนเขาของประเทศจีนเลยด้วย
และนั่นก็เลยเป็นเหตุผลว่าทำไมชาวบ้านเค้าเชื่อว่า ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) เปรียบเสมือนเป็นสาวเวอร์จิ้น เพราะยังไม่เคยมีใครที่พิชิตยอดเขานี้ได้เลยสักคนตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน มันเลยทำให้ภูเขาลูกนี้ยังคงสวยงามและสมบูรณ์ตามธรรมชาติแบบร้อนเปอร์เซนมาถึงทุกวันนี้
จากตรงเฟยไหล (Feilai Temple) เรายังสามารถมองลงไปเห็นหมู่บ้านของชาวทิเบตที่อยู่ด้านล่างบริเวณตีนเขาได้เลย ก๊อตไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชาวบ้านเค้าถึงนับถือ ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains) ขนาดนี้ คิดดูสิพวกเค้าใช้ชีวิตอยู่กับภูเขาลูกนี้มาตั้งแต่เกิดจะไม่ให้ผูกพันได้ยังไงละเนอะ
หมดตรงวัดเฟยไหล (Feilai Temple) ก็ไม่ค่อยมีอะไรทำเท่าไหร่แล้วแหละ เราสามารถเปื่อยและชิลได้ตามสบายเลย จากนั้น คืนนี้ก๊อตแนะนำให้เรานอนเร็วหน่อย เพื่อที่เราจะได้ตื่นเช้าตรู่มาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันนั่นเอง
พระอาทิตย์ขึ้น ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains)
และแล้วก็มาถึงทีเด็ดของทริป คือการดูพระอาทิคย์ขึ้นตอนเช้าของภูเขาเหม่ยลี่ ซึ่งมันก็สวยสมคำร่ำรือจริงๆ โดยเฉพาะช่วงที่แสงอาทิตย์สาดส่องมายังปลายยอดภูเขาคืออลังการของจริง ถือเป็นอีกช่วงที่ประทับใจและถือว่าจบทริปนี้ได้อย่างสมบูรณ์จริงๆ
รีวิวเที่ยวจีนยังไม่หมดเท่านี้ 🇨🇳❤️
เที่ยวจีนให้เยอะขึ้นอีกจากรีวิวจีนด้านล่างนี้ได้เลย
ปีนี้เป็นปีที่ได้มีโอกาสเที่ยวจีนเยอะมาก คือไปได้ประมาณ 3-4 รอบในหนึ่งปี และมีแพลนว่าจะได้ไปอีก นี่เลยเริ่มทยอยเขียนรีวิวจีนเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ตามรอยกันได้ง่ายขึ้นเนอะ ส่วนตัวบอกเลยว่าค่อนข้างประทับใจประเทศจีนมากพอควร ธรรมชาติเว่อร์วังอลังการ เมืองใหญ่ก็เจริญขั้นสุด การเที่ยวประเทศจีนทำให้เราเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา เอาเป็นว่า ก๊อตจะทยอยเขียนรีวิวจีนเรื่อยๆ เนอะ
เมืองในเขตปกครองพิเศษ (Municipality)
1. รีวิว เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)
2. รีวิว เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland)
3. รีวิว เทียนจิน (Tianjin)
4. รีวิว ปักกิ่ง (Beijing)
มณฑลยูนนาน (Yunnan)
1. รีวิว ลี่เจียง (Lijiang)
2. รีวิว แชงกรีล่า (Shangri-La)
3. รีวิว ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountains)
มณฑลเหอหนาน (Henan)
4. รีวิว เจิ้งโจว (Zhengzhou)
5. รีวิว ลั่วหยาง (Luoyang) กำลังเขียน
6. รีวิว หยุนไถซาน (Yuntaishan) กำลังเขียน
7. รีวิว ไคเฟิง (Kaifeng)
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡