เจิ้งโจว (Zhengzhou) เป็นอีกเมืองใหญ่และสำคัญมากของจีนเลยนะ เพราะเป็นทั้งเมืองหลวงของมณฑลเหอหนานที่มีประชากรมากกว่าสิบล้านคน และยังเป็นศูนย์กลางทางด้านโลจิสติกส์และภาคขนส่งของจีนภาคกลาง อีกทั้งยังเป็น 1 ใน 8 เมืองหลวงเก่าของจีน ที่ครั้งหนึ่ง เจิ้งโจวเคยเป็นเมืองหลวงสมัยราชวงศ์ซางอีกด้วย
เห็นเป็นเมืองสำคัญแบบนี้ แต่ที่เที่ยวในเมืองเจิ้งโจวนั้นถือว่าไม่ได้เยอะเท่าไหร่แหละ วันสุดท้ายของการเที่ยวจีนทริปนี้ เจิ้งโจว – ลั่วหยาง – หยุนไถซาน – ไคฟง (Zhengzhou – Luoyang – Yuntaishan – Kaifeng) ก๊อตก็เลยขอใช้เวลาอยู่ใน เจิ้งโจว (Zhengzhou) ให้เต็มที่ก่อนที่จะบินกลับไทย ซึ่งก็ไม่ได้ไปเที่ยวไหนไกล แค่เที่ยวเก็บแลนด์มาร์คแบบชิลๆ ในเมืองวันเดียวก็ถือว่าครบล้าว
ทริปเหอหนาน เจิ้งโจว – ลั่วหยาง – หยุนไถซาน – ไคเฟิง
สำหรับทริปจีน เจิ้งโจว – ลั่วหยาง – หยุนไถซาน – ไคเฟิง ( Zhengzhou - Luoyang - Yuntaishan - Kaifeng) ทริปนี้ เป็นทริปแรกที่ได้ประเดิมจีนเลย ก๊อตใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 8 วัน โดยนั่งเครื่องบินไป-กลับจากไทยที่เมืองเจิ้งโจว โดยทริปนี้จะมีไฮไลท์เด็ดหลายอย่างมาก ตั้งแต่ ถ้ำหลงเหมิน (Longmen Grottoes) ที่เมืองลั่วหยาง วัดเส้าหลิน (Shaolin Temple) ธรรมชาตสุดอลังการที่ หยุนไถซาน (Yuntaishan) และเมืองท่านเปาบุ้นจิ้นที่ ไคเฟิง (Kaifeng)
ทริปจีนรอบนี้ถือเป็นอีกทริปที่จัดเต็มมาก และเก็บไฮไลท์ได้เยอะเอาเรื่องเหมือนกัน ใครที่อยากตามรอยอันนี้ สามารถอ่านรีวิวตามลิสด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ รวมถึงข้างล่างจะมีแพลนฉบับเต็มที่ทุกคนสามารถลอกได้ด้วย ยังไงลองดูและปรับเปลี่ยนแพลนตามความชอบของตัวเองกันได้เลย
1. รีวิว เจิ้งโจว (Zhengzhou)
2. รีวิว ลั่วหยาง (Luoyang)
3. รีวิว หยุนไถซาน (Yuntaishan) กำลังเขียน
4. รีวิว ไคเฟิง (Kaifeng)
แพลนเที่ยว / ที่เที่ยวเจิ้งโจว (Zhengzhou)
อธิบายก่อน แพลนเที่ยวรีวิวเจิ้งโจวอันนี้จะเน้นเที่ยวในตัวเมืองนะครับ จริงๆ จะมีอีกที่เที่ยวนึงที่ห้ามพลาดคือ วัดเส้าหลิน (Shaolin Temple) ที่ถือว่าอยู่ในเขตเจิ้งโจวเหมือนกัน แต่จะอยู่ไกลจากตัวเมืองหน่อย โดยวัดเส้าหลินจะตั้งอยู่ระหว่างเมืองเจิ้งโจว (Zhengzhou) และเมืองลั่วหยาง (Luoyang) ซึ่งแพลนที่ก๊อตเที่ยววัดเส้าหลินนั้น คือก๊อตไปหลังจากเมืองลั่วหยางนั่นเอง ถ้าใครที่อยากอ่านรีวิววัดเส้าหลิน ให้ไปอ่านในรีวิวลั่วหยางแทนนะครับผม แฮ่ๆ
รู้จัก เจิ้งโจว (Zhengzhou)
พักหลังๆ มานี้หลายคนอาจคุ้นๆ ชื่อเมือง เจิ้งโจว (Zhengzhou) กันมากขึ้นแล้ว แต่หลายคนอาจคิดว่านี่เป็นเมืองใหม่รึเปล่า จะบอกว่าไม่ใช่เลย เพราะนี่คือเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มากมาย และยังเป็น 1 ใน 8 เมืองหลวงโบราณที่ใหญ่มากของประเทศจีนในสมัยราชวงศ์ชางเมื่อหลายพันปีก่อน ในปัจจุบัน เจิ้งโจว (Zhengzhou) ตั้งอยู่ในมณฑลเหอหนาน เป็นเมืองที่มีความรุ่งเรืองในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรม เศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยี และระบบขนส่งที่ปังเวอร์ เพราะที่นี่มีสนามบิน 3 แห่ง มีสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดที่หนึ่งของจีน และยังมีทางหลวงสายสำคัญของจีนอีกด้วย
ใครว่าประเทศจีนนั้นสกปรกไม่น่ามาเที่ยว ขอให้คิดใหม่เลย เพราะประเทศจีนเดี๋ยวนี้เค้าพัฒนาไปไกลแล้ว บ้านเมืองเค้าเป็นระเบียบและสะอาดมาก โดยเฉพาะที่ เจิ้งโจว (Zhengzhou) นี่แหละ ขอยกให้เป็นประเทศโลกที่หนึ่งไปเลย
การเดินทางในเมืองเจิ้งโจว
อย่างที่ก๊อตได้บอกไปตอนต้นรีวิวว่า เมืองนี้เป็นเมืองศูนย์กลางทางด้านคมนาคมของจีน การเดินทางในเมืองเจิ้งโจวนั้นเลยค่อนข้างสะดวกมาก มาทั้งรถไฟความสูง รถไฟใต้ดิน และรถเมล์ที่ให้บริการเกือบทุกพื้นที่ของเมืองเจิ้งโจวเลย อย่างรถไฟใต้ดินของเมืองเจิ้งโจวเอง ตอนนี้เค้ามีรถไฟใต้ดินทั้งหมด 7 สาย และวิ่งผ่านทั้งหมด 148 สถานีเลยทั่วเมืองทีเดียว คนที่มาเจิ้งโจวก็ไม่ต้องลำบากเลย เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปย่านไหน ทั้งในและนอกเมืองก็นั่งรถไฟหรือรถเมล์ของเค้าได้สะดวกมากเลยแหละ
🚌 รถเมล์ในเมืองเจิ้งโจว ราคาอยู่ที่ 1 หยวน ส่วนแท็กซี่จะเริ่มต้นที่ 8 หยวน และเพิ่มขึ้น 1.5 หยวน / 1 กิโลเมตร แท็กซี่ส่วนมากในจีนไม่ยอมคิดตามมิเตอร์นะ นางชอบคิดราคาเหมาแบบโกงคนต่างชาติ ยังไงลองรีเสิร์ชและคำนวนราคาดูก่อนเน้อ
จตุรัสเอ้อฉี (Er Qi Square)
ก๊อตจะพาทุกคนไปเริ่มต้นเที่ยวใจกลางเมืองกันก่อนเลยกับ จตุรัสเอ้อฉี (Er Qi Square) ซึ่งเป็นย่านการค้าที่ตั้งอยู่กลางเมือง เจิ้งโจว (Zhengzhou) และมันคือย่านที่คึกคักที่สุดในเมืองนี้เลยก็ว่าได้ ใครที่คิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ก็มาที่นี่ก่อนได้เลยน้า
จตุรัสเอ้อฉี (Er Qi Square) เป็นเหมือนจุดรวมตัวกันของคนที่นี่ เพราะว่ามันเป็นมีร้านต่างๆ ตั้งอยู่ล้อมรอบจตุรัสเยอะมาก ทั้งร้านค้า ร้านอาหาร นี่ยังไม่นับตามตรอกซอกซอย และชั้นใต้ดินนะ ซึ่งถ้านับรวมๆ กันแล้วถือว่าเยอะมาก แต่เป็นศูนย์กลางของเมืองเลยก็วาได้ ถ้าจะให้เปรียบเทียบ บรรยากาศที่นี่จะคล้ายๆ กับสยามสแควร์บ้านเรานี่แหละ และที่เก๋คือเค้ามี Underground Shopping Street ด้วย ซึ่งด้านในมีทั้งร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น และของกินเยอะม้าก ถ้าอยากมาช้อปปิ้งก็ต้องมาที่นี่แหละ ยังไงก็ต้องได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านแน่นอน
หอคอยอนุสรณ์เอ้อฉี (Er Qi Memorail Tower)
ถ้าใครมาที่ จตุรัสเอ้อฉี (Er Qi Square) แล้วก็จะต้องพบกับ หอคอยอนุสรณ์เอ้อฉี (Er Qi Memorail Tower) ตั้งอยู่เด่นเป็นสง่าในย่านนั้นอย่างแน่นอน นี่คือหอคอยที่ถือว่าเป็นอนุสรณ์สถานของคนทั้งเมืองนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าใครมาเที่ยวย่านนี้แล้ว จะไม่ขึ้นหอคอยก็กระไรอยู่ ก๊อตแนะนำให้เราเข้าไปได้เลย เพราะนอกจากด้านในจะมีนิทรรศการของเมืองเจิ้งโจวแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดดูวิวเมืองเจิ้งโจวด้วยนะ
หมดอายุ: 10-10-2024
หมดอายุ: 10-10-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
หอคอยอนุสรณ์เอ้อฉี (Er Qi Memorail Tower) นั้นสร้างขึ้นมาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ปี 1923 มันคือเหตุการณ์ที่สหภาพแรงงานการรถไฟหยุดงานประท้วงเพื่อสิทธิของตัวเอง ในตอนนั้นเหตุการณ์มันค่อนข้างรุนแรงมาก เพราะมีกองทัพชาตินิยมที่พยายามเข้ามาปราบปราม และพวกเค้าก็ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหยุดการประท้วงครั้งนี้ ถึงขนาดที่ว่าพวกเค้าได้ฆ่าแกนนำและคนอีกหลายๆคน รวมถึงจับคนบางส่วนไปขังไว้ด้วย พอเหตุการณ์มันเป็นแบบนี้ พวกพนักงานรถไฟกว่า 20,000 คน จากหลายๆ สถานีก็เลยหยุดงานประท้วงด้วย พอพนักงานหยุดทำงานกันหมด ความฉิบหายก็บังเกิด เพราะเครือข่ายรถไฟของจีนก็กลายเป็นอัมพาตทันที เรื่องมันก็เลยกลายเป็นปัญหาระดับชาติไปเลย และในที่สุดเหล่าพนักงานรถไฟทุกคนก็ได้ชัยชนะในเหตุการณ์ครั้งนี้นั่นเอง เย้ๆ
หลังจากเหตุการณนั้นเค้าก็เลยสร้าง หอคอยอนุสรณ์เอ้อฉี (Er Qi Memorail Tower) ขึ้นมาเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ที่โคตรหดหู่ครั้งนั้น แต่กว่าเค้าก็ไม่ได้สร้างในทันทีหลังเกิดเหตุการณ์ เค้ามาสร้างอีกทีในวันที่ 1 กรกฎาคม 1971 และต่อมาในปี 2006 ที่นี่ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ และที่นี่ยังถือเป็นหน่วยอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติที่มีอายุน้อยที่สุดเลยด้วย สุดยอดมาก!
หอคอยอนุสรณ์เอ้อฉี (Er Qi Memorail Tower) เป็นหอคอยที่เป็นสถาปัตยกรรมจีนโบราณ สูง 14 ชั้น โดยมี 3 ชั้นล่างเป็นฐานของหอคอย และอีก 11 ชั้นเป็นตัวหอคอย ซึ่งตัวหอคอยเองจะถูกแบ่งย่อยๆ ได้อีก 10 ห้องโถง และ 1 ห้องใต้ดิน บริเวณหลังคามีการปูหลังคาด้วยกระเบื้องเคลือบเขียวทุกๆ ชั้น ซึ่งมันเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมเลย
ด้วยลักษณะของหอคอยนี้ที่สร้างเป็นอาคารห้าเหลี่ยมติดกัน บางคนก็เลยเรียกว่าเป็นหอคอยแฝด (Twin Tower) ความเก๋ของมันอยู่ตรงที่ ถ้าเราไปยืนอยู่ทางทิศเหนือและใต้ของอาคารเราจะเห็นเป็นหอคอยแฝด แต่ถ้าเราไปยืนอยู่ทางทิศตะวันตกและตะวันออกเราจะมองเห็นเป็นหอคอยเดี่ยวนั่นเอง ถ้าได้ไปที่นี่ก็อย่าไปลืมถ่ายรูปทั้ง 2 แบบเลยนะ เพราะที่ หอคอยอนุสรณ์เอ้อฉี (Er Qi Memorail Tower) ถ่ายรูปจากมุมไหนก็สวยสุดๆ
บริเวณยอดของหอคอยจะมีนาฬิกาอยู่ทั่วทุกทิศ และมีระฆังอยู่ทั้งหมด 6 ใบ เมื่อเวลาเดินไปครบชั่วโมงมันก็จะมีเพลง Dong Fang Hong ไว้บอกเวลาด้วย ใครที่เดินเล่นอยู่ที่ จตุรัสเอ้อฉี (Er Qi Square) จะต้องได้ยินแน่นอน
มาถึงที่นี่ทั้งนี้อย่ามัวแต่ถ่ายรูปแค่ด้านนอกหอคอย ข้างในหอคอยจัดแสดงวัตถุโบราณต่างๆ ของจีน รวมไปถึงภาพและข้อความที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นด้วย และจุดไฮไลท์อยู่ที่ชั้นบนสุดของหอคอยที่สามารถมองเห็นเมืองเจิ้งโจวได้แบบ 360 องศาเลย จะบอกว่าที่นี่เข้าฟรีด้วยนะเออ แค่ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ก็เข้าได้แล้ว
เขตใหม่เจิ้งตง (Zhengdong New District)
เขตใหม่เจิ้งตง (Zhengdong New District) ถือเป็น CBD แห่งใหม่ของเมือง เจิ้งโจว (Zhengzhou) นี่คือเมืองที่สร้างขึ้นมาใหม่ โดยเค้ามีการปรับผังเมืองใหม่ทั้งหมดและพัฒนาให้ตรงนี้กลายเป็นศูนย์กลางของสถาบันการเงินในปี 2014 เพราะมีสถาบันการเงินกว่า 200 แห่งย้ายเข้ามาที่เขตนี้ ทำให้เป็นย่านที่ค่อนข้างใหม่มาก สะอาดสุด และการวางผังเมืองก็เป็นระเบียบมาก มีพื้นที่สีเขียวให้พักผ่อนเยอะมากๆเลยแหละ
ช่วง 20 ปีก่อน จีนพยายามจะพัฒนาเมืองเก่าและสร้างเมืองใหม่รอบๆ เมืองที่เจริญแล้ว จึงสร้าง เขตใหม่เจิ้งตง (Zhengdong New District) ขึ้นมา ซึ่งเขตนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของ เจิ้งโจว (Zhengzhou) โดยเค้าได้สถาปนิกญี่ปุ่นชื่อ Kisho Kurakawa มาออกแบบและสร้างให้บริเวณนี้ศูนย์กลางอันใหม่ของเจิ้งโจว ซึ่งมีทั้งโรงแรม ศูนย์ศิลปะ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติ และตึกอาคารอีกเยอะแยะ ซึ่งเค้าออกแบบมาได้ทันสมัยมาก จนกลายเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คใหม่ของที่นี่เลย
ศูนย์ศิลปะเหอหนาน (Henan Art Centre)
ศูนย์ศิลปะเหอหนาน (Henan Art Centre) ถือเป็นเหตุผลหลักของก๊อตในการมาเที่ยวย่านนี้เลย เพราะตัวก๊อตเองนั้นชอบดูอาร์ทมิวเซียมมากๆ เพราะเค้าบอกว่านี่เป็น Creative Arts Center ของเมือง แต่พอไปแล้ว ดันไม่มีงานแสดงนิทรรศการอะไรเลย ก็เลยแอบผิดหวังหน่อยๆ ได้แต่ถ่ายรูปนิดหน่อยเก็บไว้เท่านั้นเอง แง้
สำหรับตึก ศูนย์ศิลปะเหอหนาน (Henan Art Centre) ไอเดียการออกแบบของที่นี่นั้นมีการผสมผสานวัฒนธรรมจีนโบราณและปัจจุบันไว้ได้อย่างลงตัวมาก ภายนอกอาคารสร้างตามรูปทรงของเครื่องปั้นดินเผาที่ค้นพบในมณฑลเหอหนาน เค้าเลือกใช้กระจกสีเขียว ซึ่งเปรียบเสมือนสีของหยก อัญมณีล้ำค่าของจีน ข้างๆ จะมีอาคารทรงกลมๆ สีเหลืองทอง ดูเป็นริ้วๆ โดยเค้าได้แรงบันดาลใจมาจากแม่น้ำฮวงเหอหรือแม่น้ำเหลือง ซึ่งเป็นแม่น้ำที่สำคัญของประเทศจีน
โดยทั่วไปที่นี่เค้าจะจัดแสดงงานศิลปะและวัฒนธรรมพื้นบ้านของเหอหนานไว้ เช่น เครื่องเคลือบ เครื่องปั้นดินเผา และภาพวาดโบราณ แต่แนะนำว่าถ้าใครจะมาที่นี่ควรเช็คให้ดีก่อนว่าช่วงที่จะไปเค้ามีจัดแสดงอะไรอยู่บ้าง เพราะอย่างที่บอกไปคือ ก๊อตไปแล้วไม่มีงานแสดงอะไรเล้ย งงอยู่เหมือนกัน 5555555555
ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติเจิ้งโจว (Zhengzhou International Convention and Exhibition Centre (ZZICEC)) + ตึกเจิ้งโจวกรีนแลนด์ (Zhengzhou Greenland Plaza)
ที่ใกล้ๆ กันกับศูนย์ศิลปะ จะเป็น ศูนย์การประชุมและนิทรรศการนานาชาติเจิ้งโจว (Zhengzhou International Convention and Exhibition Centre (ZZICEC)) หนึ่งในสามอาคารที่โดดเด่นที่สุดในย่านธุรกิจของ เจิ้งโจว (Zhengzhou) ที่นี่เป็นทั้งศูนย์การประชุม นิทรรศการ และงานบันเทิงต่างๆ โดยตัวตึกของศูนย์การประชุมจะมีตึกที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองนี้อยู่ คือ ตึกเจิ้งโจวกรีนแลนด์ (Zhengzhou Greenland Plaza) ที่ตอนนี้กลายเป็นอีกหนึ่งไอคอนิกในเรื่องความทันสมัยของเมืองเจิ้งโจวไปเรียบร้อยแล้ว
ตึกเจิ้งโจวกรีนแลนด์ (Zhengzhou Greenland Plaza) มีอีกชื่อว่า มิลเลนเนียมรอยัล พลาซ่า (Millennium Royal Plaza) มันคือหอคอยทรงกลม 60 ชั้น ที่คนทั่วไปจะมองว่าเหมือนข้าวโพด ตึกนี้เลยมีอีกฉายาหรือชื่อเล่นที่เค้าเรียกกันว่า ตึกฝักข้าวโพด (Corn Tower) นั่นเอง 55555
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ตึกฝักข้าวโพดนี้เป็นตึกที่สูงที่สุดในเจิ้งโจว ด้วยความสูง 280 เมตรเลยนะ ใช้เวลาสร้างทั้งหมด 5 ปี ตั้งแต่ปี 2007-2012 เลย โดยเค้าได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากสถาปัตยกรรมของจีนดั้งเดิม ซึ่งเป็นการก่ออิฐแบบโบราณและเป็นรูปทรงเจดีย์ไม้แบบจีน และยังออกแบบให้เป็นอาคารที่ประหยัดพลังงานมากที่สุดแห่งหนึ่งเลยด้วย ถึงข้างนอกจะดูเป็นกระจกทั้งหมด แต่มันไม่มีผลต่อภายในอาคารเลย เข้าไปอยู่ข้างในตึกจะไม่รู้สึกร้อนอบอ้าวแน่นอน
ด้านบนสุดของอาคารจะมี Crown Heliostat ที่ทำหน้าที่เป็นตัวสะท้อนแสงอาทิตย์ลงมาในอาคาร ก็เลยทำให้ช่วงกลางวันมีแสงส่องเข้ามาในอาคารแบบทั่วถึงมาก แม้ว่าอาคารนี้จะโคตรสูงก็ตาม มันเลยทำให้อาคารนี้ประหยัดพลังงานไปได้เยอะเลย
นี่แหละก็คือโดยรวมของเขตใหม่เจิ้งตง (Zhengdong New District) ที่มีความใหม่เอี่ยม เรียบร้อยแล้ว มีทั้งสวนสาธารณะที่เติมเต็มพื้นที่สีเขียวล้อมรอบทะเลสาบรู่ยี่ (Ruyi Lake) รวมถึงตึกสมัยใหม่ต่างๆ ซึ่งถ้าใครที่อยากเห็นความเป็นเมืองใหม่ของจีน ก็ลองมาเที่ยวแถวย่านนี้กันได้เลย
และนี่ก็เป็นที่สุดท้ายของทริป เจิ้งโจว – ลั่วหยาง – หยุนไถซาน – ไคเฟิง ( Zhengzhou – Luoyang – Yuntaishan – Kaifeng) แล้ว ถ้าใครที่วางแผนจะมาเที่ยวตามเส้นทางนี้ก็สามารถอ่านรีวิวแต่ละเมือง แล้วไปเที่ยวตามรอยก๊อตได้เล้ยย
ที่พัก/โรงแรม ในเจิ้งโจว (Zheng Zhou)
INNSIDE Zhengzhou – Melia
สำหรับโรงแรมที่ก๊อตนอนในเมืองเจิ้งโจวนั้น ก๊อตเลือกพักที่ INNSIDE Zhengzhou ในเครือเชนโรงแรม Melia ที่ถือว่าดีทั้งตัวโรงแรม ไม่ว่าจะเป็นห้องพักที่นอนสบายมาก ห้องค่อนข้างกว้าง สิ่งอำนวยความสะดวกครบ นอกจากนี้ ห้องเค้ายังมาพร้อมอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ที่มีตัวเลือกหลากหลาย ถือว่าอร่อยและดีมาก สามารถกินอิ่มเพื่อลุยเที่ยวในแต่ละวันได้เล้ย
ส่วนเหตุผลหลักที่ก๊อตเลือกพักที่นี่ คือเรื่องของทำเลที่เริ่ดสุด เพราะโรงแรมตั้งอยู่ใกล้สถานีรถไฟ Zhengzhou East Railway Station East Square ในระยะเดินได้แปปเดียว ซึ่งเราสามารถนั่งรถไฟความเร็วสูงที่สถานีนี้ไปยังเมืองอื่นๆ ต่อได้อย่างสะดวกสบายเลย
ดูเรทและจองผ่าน Agoda ดูเรทและจองผ่าน Booking ดูเรทและจองผ่าน Expedia ดูเรทและจองผ่าน Trip ดูเรทและจองผ่าน Hotelsราคาห้องพักเริ่มต้น 2050 บาท/คืน ดูเรทและจอง INNSIDE Zhengzhou – Melia สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย
รีวิวเที่ยวจีนยังไม่หมดเท่านี้ 🇨🇳❤️
เที่ยวจีนให้เยอะขึ้นอีกจากรีวิวจีนด้านล่างนี้ได้เลย
ปีนี้เป็นปีที่ได้มีโอกาสเที่ยวจีนเยอะมาก คือไปได้ประมาณ 3-4 รอบในหนึ่งปี และมีแพลนว่าจะได้ไปอีก นี่เลยเริ่มทยอยเขียนรีวิวจีนเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ตามรอยกันได้ง่ายขึ้นเนอะ ส่วนตัวบอกเลยว่าค่อนข้างประทับใจประเทศจีนมากพอควร ธรรมชาติเว่อร์วังอลังการ เมืองใหญ่ก็เจริญขั้นสุด การเที่ยวประเทศจีนทำให้เราเซอร์ไพรส์ได้ตลอดเวลา เอาเป็นว่า ก๊อตจะทยอยเขียนรีวิวจีนเรื่อยๆ เนอะ
เมืองในเขตปกครองพิเศษ (Municipality)
1. รีวิว เซี่ยงไฮ้ (Shanghai)
2. รีวิว เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์ (Shanghai Disneyland)
3. รีวิว เทียนจิน (Tianjin)
4. รีวิว ปักกิ่ง (Beijing)
มณฑลยูนนาน (Yunnan)
5. รีวิว ลี่เจียง (Lijiang)
6. รีวิว แชงกรีล่า (Shangri-La)
7. รีวิว ภูเขาหิมะเหม่ยลี่ (Meili Snow Mountain)
มณฑลเหอหนาน (Henan)
8. รีวิว เจิ้งโจว (Zhengzhou)
9. รีวิว ลั่วหยาง (Louyang)
10. รีวิว หยุนไถซาน (Yuntaishan) // กำลังเขียน
11. รีวิว ไคเฟิง (Kaifeng)
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡