ไครสต์เชิร์ช (Christchurch) ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเกาะใต้ และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศนิวซีแลนด์ อีกทั้งไครสต์เชิร์ชเองยังเป็นจุดเริ่มต้นของใครหลายคนที่มาเที่ยวเกาะใต้ เพราะส่วนมากเราจะบินกันมาลงที่เมืองนี้ก่อนนั่นเอง ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะได้ตำแหน่งเมืองใหญ่ที่สุดในเกาะใต้ แต่เมื่อเทียบจริงๆแล้ว เมืองนี้มีประชากรอยู่แค่ราว 350,000 คนเท่านั้น ดังนั้น นี่ก็ยังเป็นเมืองเล็กๆ และยังมีความเงียบสงบตามสไตล์เมืองนิวซีแลนด์นั่นเอง
รีวิวเที่ยว ไครสต์เชิร์ช (Christchurch) อันนี้เหมาะมากกับคนที่เอียนกับการเที่ยวธรรมชาติๆ ติดๆ กันหลายวันเลยแหละ เพราะเกือบทั้งอาทิตย์ของทริปนิวซีแลนด์ เราเที่ยวแต่ธรรมชาติมาตลอด ทีนี้ การปิดทริปนิวซีแลนด์ด้วยการมาเที่ยวฟีลเมืองซักหนึ่งวันก็ดีเหมือนกัน ตัดเลี่ยนธรรมชาติด้วยการช้อปปิ้งเล็กน้อย หาร้านอาหารอร่อยๆ รวมถึงฮ้อปปิ้งคาเฟ่ชื่อดังของเค้า ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ ซึ่งถ้าใครที่อยากได้แนวนี้ ลองมาดูรีวิวนี้ต่อกันได้เล้ย
รีวิวเที่ยวนิวซีแลนด์ เกาะใต้จาก HASHCORNER
บอกก่อนคร่าวๆว่า สำหรับการเที่ยวนิวซีแลนด์ เกาะใต้ของก๊อตใช้เวลาไปทั้งหมด 10 วัน 9 คืน ไม่รวมวันบิน ซึ่งแพลนก๊อตนั้นคลอบคลุมหลายเมืองอยู่ ซึ่งหลักๆ ของการเที่ยวทริปนี้คือการขับรถเที่ยว โดยมีระยะทางและแต่ละเมืองใกล้-ไกล ต่างกันออกไป (ขับรถเหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกัน) เอาเป็นว่า นี่จะเขียนแยกเป็นเมืองไปตามลำดับของแพลน เพื่อความง่ายของคนอ่านและคนที่จะตามรอยด้วยเนอะ
⚡️ใครที่เข้ามาอ่านครั้งแรก แล้วอยากอ่านภาพรวมทริปของการเที่ยวเกาะใต้ นิวซีแลนด์ (South Island - New Zealand) ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแพลนเที่ยว การเช่ารถ การทำวีซ่า และเรื่องอื่นๆ แนะนำให้เข้าไปอ่านโพสต์ รีวิว นิวซีแลนด์ (New Zealand) x ROAD TRIP เกาะใต้! ก่อนเลย (กำลังเขียนเด้อ รอก่อน)
EP 0 : เที่ยวเกาะใต้ นิวซีแลนด์ (ภาพรวม: แพลนเที่ยว / เช่ารถ / วีซ่า) – กำลังเขียน
EP 1 : ทะเลสาบเทคาโป (Lake Tekapo)
EP 2 : อุทยานแห่งชาติเอโอรากิ/เมาท์คุก (Aoraki/Mount Cook National Park)
EP 3 : ควีนส์ทาวน์ (Queenstown)
EP 4 : อุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์ (Fiordland National Park) / มิลฟอร์ดซาวด์ (Milford Sound)
EP 5 : วานากะ (Wanaka)
EP 6 : ฟ็อกซ์ กลาเซีย (Fox Glacier) – กำลังเขียน
EP 7 : โฮกิติกะ (Hokitika) + อาร์เธอส์ พาส (Arthur’s Pass) – กำลังเขียน
EP 8 : ไครสต์เชิร์ช (Christchurch)
Riverside Market (ริเวอร์ไซด์มาร์เก็ต)
ที่แรกที่เราจะแวะก่อนเลยคือ Riverside Market ที่ตั้งอยู่ใจกลาง CBD ของเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) ที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร ของกินกรุบกริบ คาเฟ่ และร้านขายของชำที่เจ้าของฟาร์มเค้านำมาขายเองในตลาดแห่งนี้ ซึ่งถ้าใครที่มาเที่ยวที่นี่ และอยากหาที่ฝากท้องตอนเช้าล่ะก็ ที่นี่ถือเป็นตลาดที่ดีสุดในไครสต์เชิร์ช (Christchurch) เลยแหละ
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ไครสต์เชิร์ช (Christchurch) เองนั้นเคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 2011 ในระดับ 6.3 ริกเตอร์ ที่ทำให้เมืองนี้พังยับเยิน จนเค้ามีโครงการฟื้นฟูเมือง และสร้างคอมมูนิตี้มอล ‘the Re:Start Container Mall’ แห่งนี้ขึ้นมาชั่วคราวให้เมืองนี้ได้คึกคักขึ้น ไปๆ มาๆ ที่นี่ดันเป็นอีกหนึ่งไอคอนนิคของเมืองไปเรียบร้อย จนเค้าตัดสินใจให้มีที่นี่ถาวร จนกลายมาเป็น Riverside Market ถึงปัจจุบัน
ส่วนตัวก๊อตเอง คิดว่าที่ Riverside Market ค่อนข้างเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างมีชีวิตชีวามากที่สุดแล้ว ด้วยความที่เมืองในนิวซีแลนด์ค่อนข้างเงียบอยู่แล้ว แต่ที่นี่คนจะเยอะขึ้นมาหน่อย เพราะถือว่าอยู่ CBD แถมยังมีร้านรวง ร้านอาหาร และคาเฟ่เยอะแยะ นั่นทำให้ที่นี่ดูไม่ค่อยเหงาเท่าไหร่ 5555
Bridge of Remembrance (สะพานแห่งความทรงจำ)
เสร็จจาก Riverside Market นั้น เราจะมาเดินเล่นกินลมชมเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) กัน ซึ่งถ้าเราเดินมานิดหน่อยจาก Riverside Market เราจะเจอกับถนนช้อปปิ้งกลางเมือง ที่เราสามารถมาเดินเล่นชิลๆได้ ซึ่งถ้าใครที่คิดจะมาช้อปปิ้งแบบจริงจัง จะบอกว่านิวซีแลนด์อาจจะไม่ใช่จุดหมายปลายทางสำหรับการช้อปปิ้งเด้อ เพราะต้องบอกตามจริงว่า เมืองเค้าไม่ได้ใหญ่ คนไม่ได้เยอะ จะฟีลแบบเงียบสงบ เดินเล่น ช้อปปิ้ง หาของกินกรุบกริบมากกว่า
จากถนนช้อปปิ้ง เดินมายังฝั่งตรงข้ามนิดหน่อย เราจะเจอ Bridge of Remembrance หรือ สะพานแห่งความทรงจำ ที่ทางนิวซีแลนด์ได้สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงชาวนิวซีแลนด์ที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 1 รวมถึงชาวนิวซีแลนด์ที่ได้เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญของโลกเรานั่นเอง
Avon River (แม่น้ำเอวอน)
ตรง Bridge of Remembrance (สะพานแห่งความทรงจำ) เนี่ย มันจะเป็นสะพานคนเดินที่ข้ามแม่น้ำเอวอน (Avon River) ที่ถือเป็นแม่น้ำสายหลักของเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) ด้วยความที่มันไหลผ่านย่านกลางเมือง CBD เค้าด้วย ตรงนั้นเลยมีพื้นที่สาธารณะให้คนในเมืองเค้าได้มาพักผ่อน และทำกิจกรรมต่างๆ โดยจัดเป็นลานพลาซ่าริมแม่น้ำเอวอนสวยๆ
นี่ถือเป็นพื้นที่สาธารณะสำหรับคนในเมืองเค้าที่ทำออกมาได้ดีมากๆ ทุกอย่างมันดีไปหมดเลยทั้งบรรยากาศ ความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย เห็นแล้วโคตรอิจฉาเลยแหละ ว่าไปก็อยากให้มีแบบนี้ในเมืองไทยบ้างเนอะ ฮือออ
Christchurch Art Gallery Te Puna o Waiwhetū (หอศิลป์ไครสต์เชิร์ช)
Christchurch Art Gallery Te Puna o Waiwhetū หรือ หอศิลป์ไครสต์เชิร์ช ถือเป็นหอศิลป์ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) เลยล่ะ โดยภาษาเมารีที่ต่อท้ายของหอศิลป์นั้น มีความหมายว่า ‘การให้ชีวิตของสถานที่แห่งนี้’ เพราะที่ตั้งของหอศิลป์ตรงนี้เคยเป็นบ่อน้ำบาดาลมาก่อนที่จะเป็นตึกหอศิลป์ในปัจจุบัน ซึ่งการออกแบบของตัวตึกนั้นได้ใช้ภาษาโค้งเว้า โดยได้แรงบันดาลใจมาจากสายน้ำของแม่น้ำเอวอน (Avon River) ที่ไหลผ่านเมืองนี้
สำหรับการมาเที่ยวชมนิทรรศการต่างๆ ใน Christchurch Art Gallery Te Puna o Waiwhetū (หอศิลป์ไครสต์เชิร์ช) นั้น เราสามารถเข้าชมได้ฟรีเกือบทุกห้องเลย ซึ่งอันนี้คือโคตรดี และแสดงให้ถึงการที่ทุกคนสามารถเข้าถึงงานศิลป์ได้โดยไม่มีการแบ่งแยก
ด้านในของหอศิลป์นั้น มีห้องแสดงงานศิลป์เยอะมาก โดยส่วนมากจะเป็นงาน Contemporary Arts ไม่จำกัดเฉพาะภาพวาด แต่ยังมีทั้งงานศิลป์แขนงอื่นๆ ทั้งภาพถ่าย ประติมากรรม รวมถึงงานดิจิตอลยุคใหม่ทั้งหลายเลยล่ะ
ถ้าใครชอบดูงานอาร์ท และชอบเดินหาแรงบันดาลใจเพื่อต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ในตัวเองล่ะก็ ที่ Christchurch Art Gallery Te Puna o Waiwhetū (หอศิลป์ไครสต์เชิร์ช) แห่งนี้ถือเป็นอีกสถานที่ที่น่าสนใจมาก ค่าเข้าก็ฟรี แถมยังได้อะไรดีๆ กลับไปด้วยอีก แนะนำมากๆ เลย
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
Christchurch Botanic Gardens (สวนพฤกษศาสตร์ไครสต์เชิร์ช)
Christchurch Botanic Gardens หรือ สวนพฤกษศาสตร์ไครสต์เชิร์ช นั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองเพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนที่นี่ โดยสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1863 เมื่อต้นโอ๊กอังกฤษ ถูกปลูกขึ้นเพื่อระลึกถึงการเสกสมรสของ เจ้าชายอัลเบิร์ต (Prince Albert) และ เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเดนมาร์ก (Princess Alexandra of Denmark) และถูกขยายอาณาจักรจนตอนนี้มีพื้นที่กว่า 210,000 ตารางเมตรเลยแหละ
การเดินเล่นในสวนพฤษศาสตร์แห่งนี้คือจอยและชิลมากนะ เพราะนอกจากจะใหญ่โตแล้ว ต้นไม้เค้ายังสวยมากๆ มีทั้งต้นเล็ก ต้นใหญ่เก่าแก่แผ่กิ่งก้านออกไป ทำให้สวนร่มรื่นมาก เดินแล้วไม่ร้อนเลยแหละ
ส่วนโซนที่ก๊อตชอบมากที่สุดคือ สวนกุหลาบ หรือ Central Rose Garden ที่มีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1909 และเค้านับว่าเป็นสวนกุหลาบที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศแถบโอเชียเนีย โดยมีต้นกุหลาบมากกว่า 2,500 ต้นแน่ะ
Addington Coffee Co-op
ด้วยความที่เวลาเหลือ และตัวเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) เองก็ไม่ได้มีที่เที่ยวอะไรมากกกก ฮ่าๆ นี่เลยขอเปลี่ยนแนวมาคาเฟ่ฮ็อปปิ้งบ้าง โดยร้านแรกที่ก๊อตจะไปคือ Addington Coffee Co-op ที่ก๊อตไปตามรอยจากการจัดอันดับ The Best Coffee & Tea in Christchurch จากเว็บ Tripadvisor ซึ่งร้านนี้เค้าติท็อปอันดับที่ 2 เลยทีเดียว โดยคอนเซ็ปของร้านเค้าคือการเปลี่ยนจากร้านซ่อมรถเก่า มาเป็น Brunch Cafe ในบรรยากาศอบอุ่น เพื่อให้ที่นี่เป็นที่มีตติ้งของคนท้องถิ่นได้มานั่งแฮงค์เอาท์และพูดคุยกันนั่นเอง
สำหรับเมนูที่เค้าแนะนำกันคือ การมากิน Brunch ที่มีเมนูให้เลือกทานเยอะมาก แต่ตอนนั้นก๊อตยังไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ ก็เลยเลือกกินแค่กาแฟอย่าง Hot Latte ($4.7) และเค้ก ซึ่งรสชาติเค้าก็ถือว่าดีและอร่อยเลยทีเดียว
การกินกาแฟที่ Addington Coffee Co-op ต้องบอกว่าบรรยากาศร้านเค้าดีจริง มีฟีลความโฮมมี่และเฟรนด์ลี่มาก และที่ประทับใจมากๆ คือมีลุงที่ดูเหมือนเป็นเจ้าของร้าน ได้เข้ามาทักทายและพูดคุยกับเราด้วยแหละ ฟีลแบบว่า เป็นนักท่องเที่ยวใช่มั้ย เพราะลุงไม่คุ้นหน้าเลย แล้วลุงก็พูดกับเราต่ออีกเยอะแยะ ซึ่งนั่นก็เป็นโมเมนต์น่าค่อนข้างประทับใจสำหรับคาเฟ่ที่นี่เหมือนกัน
Unknown Chapter Coffee Roasters
ร้านสุดท้ายที่เรามาตามรอยฮ็อปปิ้ง คือ Unknown Chapter Coffee Roasters ที่ถือเป็นร้านอันดับหนึ่งในการจัดอันดับ The Best Coffee & Tea in Christchurch จากเว็บ Tripadvisor โดยเค้าเป็นร้าน Specialty Coffee ที่ทำกาแฟตั้งแต่การคั่วเมล็ดเอง จนถึงเสิร์ฟกาแฟดีๆ ถึงมือเรา โดยเมล็ดการแฟที่เค้าคัดเลือกมาใช้ในร้านนั้นก็มีหลากหลาย ซึ่งเราสามารถเลือกกินได้ตามความชอบเลย นอกจากกาแฟที่เด็ดแล้ว ร้านนี้เค้ายังเสิร์ฟทั้ง Brunch ด้วย ใครที่ตื่นเช้ามา แล้วอยากหาอะไรอร่อยๆ ทาน ลองมากินข้าวเช้าที่นี่ก็เป็นไอเดียที่ดีเหมือนกันนะ
ที่ก๊อตสั่งมา มีเค้กทั้ง Chocolate Raspberry Brownie Cheesecake ($4.5) ที่ผสมหลายสิ่งได้อย่างลงตัวมาก เหมาะกับคนเลือกไม่ถูกอย่างก๊อตสุด (คือชอบทั้งบราวนี่ และชีสเค้ก 5555) โดยตัวเค้กนำรสชาติด้วยช็อคโกแลตบราวนี่ ตามด้วยชีสเค้กที่ปริมาณน้อยกว่า ถือว่าทำได้ดีเลยแหละ นอกจากนี้เค้ายังมีเค้ก Oaty Ginger Slice ($4.5) ที่ดูใช้ของแปลกอย่างขิงมาทำเป็นเค้กผสมข้าวโอ๊ตที่ถือว่าทำได้อร่อย กินคู่กับกาแฟ Flat White ($4.2) ของเค้า ก็ถือว่าครบองค์ความฟินเลยทีเดียว
โดยรวมของ Unknown Chapter Coffee Roasters นั้นก็คือดีย์ บาริสต้าหน้าตาก็หล่อเหลาเอาการ บรรยากาศร้านก็ออกแนวลอฟท์ คุมโทนดำแบบเท่ห์ ทำให้ร้านนี้เป็นอีกร้านที่น่ามาแวะกินอีกร้านของไครส์เชิร์ชเลยแหละ ถือว่าก๊อตแนะนำครับโผมม
ไครส์เชิร์ช (Christchurch) เองก็ถือเป็นเมืองปิดทริปของก๊อตได้อย่างสวยงาม พร้อมบินกลับไทยอย่างแฮปปี้ สำหรับใครที่พึ่งเข้ามาอ่านรีวิวนี้เป็นอันแรก ลองเลือกอ่านเมืองอื่น ในรีวิวนิวซีแลนด์ของก๊อตต่อได้เลย 💙
ที่พักในไครส์เชิร์ช (Christchurch)
219 on Johns Motel & Holiday Park
สำหรับที่พักที่ก๊อตเลือกในไครส์เชิร์ช (Christchurch) นั้น คือ 219 on Johns Motel & Holiday Park ที่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองมาประมาณ 13 กิโลเมตร แต่อยู่ใกล้สนามบินไครส์เชิร์ช เพียงแค่ 7 กิโลเมตร เหตุผลที่ก๊อตเลือกมาอยู่ไกลตัวเมือง แต่ใกล้สนามบินขนาดนี้ เพราะก๊อตเที่ยว ไครส์เชิร์ช (Christchurch) เป็นเมืองสุดท้ายก่อนบินกลับไทยนั่นเอง แถมทริปนิวซีแลนด์ทริปนี้ ก๊อตไม่ได้ใช้รถสาธารณะเลย เพราะเราเช่ารถขับเที่ยวตลอดเวลา ดังนั้น ก๊อตเลยไม่ค่อยกังวลในเรื่องเดินทางเข้าเมืองเท่าไหร่ แต่จะเป็นห่วงเรื่องการเดินทางไปสนามบินแทนมากกว่า ซึ่งถ้าวัดเวลาจากที่พักนี้ ก๊อตสามารถขับรถไปสนามบินได้ โดยใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้น ถือว่าสะดวกมากทีเดียวล่ะ
ห้องที่ก๊อตจองนั้น เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน สามารถนอนได้ 4 คน ซึ่งตัวห้องนั้นก็ค่อนข้างกระทัดรัด แต่ไม่อึดอัด ตัวห้องสามารถจัดสรรปันส่วนพื้นที่ได้อย่างดี โดยห้องหลักจะเป็นห้องนอนเตียงใหญ่ พร้อมโซฟานั่งเล่น และโต๊ะทานข้าว พร้อมทะลุเข้าห้องครัว และอีกหนึ่งห้องนอนได้
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ถือว่าจัดมาให้อย่างครบครัน อย่างเช่น เตียงนอนสบายๆ พร้อมหมอนและผ้าห่ม ทีวี ไวไฟ ในห้องครัวมีไมโครเวฟ ตู้เย็น เตาทำอาหาร กาน้ำ ซิงค์ล้างจาน ซึ่งนี่บอกเลยว่าครบมาก สามารถทำอาหารกินเองที่นี่ได้
สรุป ใครที่กำลังหาที่พักใกล้ๆสนามบิน ที่นี่เป็นอีกตัวเลือกนึงที่ดีมากเลยทีเดียว จะมานอนหลังจากบินมาลงที่นิวซีแลนด์แล้วค่อยไปเที่ยวต่อในวันถัดไปก็ได้ หรือจะมานอนที่เพื่อเตรียมพร้อมบินกลับก็ดีหมด ถือว่าแนะนำเลยครับ
ราคาห้องพักเริ่มต้น 1,500 บาท/คืน ดูเรทและจอง 219 on Johns Motel & Holiday Park สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย
อ่านจบรีวิวนี้แล้ว อ่านเมืองอื่นต่อได้เลย!
รีวิวเที่ยวนิวซีแลนด์ เกาะใต้จาก HASHCORNER
EP 0 : เที่ยวเกาะใต้ นิวซีแลนด์ (ภาพรวม: แพลนเที่ยว / เช่ารถ / วีซ่า) – กำลังเขียน
EP 1 : ทะเลสาบเทคาโป (Lake Tekapo)
EP 2 : อุทยานแห่งชาติเอโอรากิ/เมาท์คุก (Aoraki/Mount Cook National Park)
EP 3 : ควีนส์ทาวน์ (Queenstown)
EP 4 : อุทยานแห่งชาติฟยอร์ดแลนด์ (Fiordland National Park) / มิลฟอร์ดซาวด์ (Milford Sound)
EP 5 : วานากะ (Wanaka)
EP 6 : ฟ็อกซ์ กลาเซีย (Fox Glacier) – กำลังเขียน
EP 7 : โฮกิติกะ (Hokitika) + อาร์เธอส์ พาส (Arthur's Pass) – กำลังเขียน
EP 8 : ไครสต์เชิร์ช (Christchurch)
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡