ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) เป็นอีกที่เที่ยวที่ให้มู้ดเที่ยวเหมือนกับอาลีซาน (Alishan) เล้ย ใครที่เคยไปเที่ยวอาลีซานมาแล้ว หรือใครเป็นสายธรรมชาติโดยเฉพาะภูเขาและเดินเทรลในป่าแบบฉ่ำๆ ก๊อตมั่นใจว่าจะต้องหลงรักที่นี่แน่นอน เนื่องด้วยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเก่าแก่ที่เคยเป็นพื้นที่ตัดไม้ขนาดใหญ่ในสมัยก่อน แม้กาลเวลาจะล่วงเลยมานานหลายปี ปัจจุบันเราจะยังคงเห็นร่องรอยและอุปกรณ์ตัดไม้แบบเก่ายังคงหลงเหลืออยู่ ไม่ว่าจะเป็น ทางรถไฟป่าไม้เก่า ซากกระเช้าลอยฟ้าสำหรับขึ้นเขา เกวียนแบบใช้เครื่องยนต์ และอื่นๆ ให้ได้เห็นผ่านตาเยอะแยะเลย
ซึ่งทริปนี้ก๊อตก็จะพาทุกคนไปเดินเทรลสนุกๆ ในหลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น Jianqing Huaigu Trail และ Maosing Reminiscent Trail สองเส้นทางเดินเทรลที่มีบรรยากาศสวยงาม บอกเลยว่าไฮไลท์สุดปังของทริปนี้ที่ทุกคนควรมาเห็นของจริงกับตา คือ รางรถไฟเก่าที่ถูกปกคลุมไปด้วยมอสมากมายจนกลายเป็นรางรถไฟสีเขียวฟูฟ่องกลางป่าดิบชื้น และยิ่งใครมาเที่ยวเดินเทรลในไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ในช่วงเช้าๆ หน่อย นอกจากจะได้ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติสวยๆ แล้ว ยังได้เห็นทัศนียภาพที่สวยงามอย่าง ‘ทะเลหมอก’ ที่ปกคลุมผืนป่าเอาไว้อีกด้วย เป็นหนึ่งในเสน่ห์ของป่าที่นี่ ที่หมอกหนาเหล่านี้เสริมเติมแต่งให้พื้นที่ป่ามันดูลึกลับ ชวนค้นหามากขึ้นไปอีก
รู้จัก ไถ่ผิงซาน (Taipingshan)
ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ตั้งอยู่ในเขตทางตอนเหนือของอี๋หลาน (Yilan) และเป็นหนึ่งในสามพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่สำคัญมากที่สุดในไต้หวันเลยนะ ด้วยที่สภาพอากาศของที่นี่นั้นมีความชื้นและมีฝนตกชุก ส่งผลให้ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) มีสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรทางนิเวศวิทยา โดยมีต้นไม้ที่มีคุณค่าต่อไต้หวันมาก ไม่ว่าจะเป็น ต้นสนไซเปรสไต้หวัน ต้นไซเปรสญี่ปุ่น และต้นเฮมล็อกไต้หวัน นอกจากนี้ ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ในเส้นทางเทรล Cuifeng Lake Circular Trail ยังได้รับการรับรองว่าเป็นเส้นทางเดินเทรลในป่าที่เงียบที่สุดแห่งแรกของโลก (The World’s First Silent Trail) เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2022 ซึ่งตรงกับวันการได้ยินโลกอีกด้วย โดยระดับเสียงต่ำสุดที่วัดได้คือน้อยกว่า 25 เดซิเบล ซึ่งถือเป็นระดับเสียงที่แทบจะเงียบสนิทเลยล่ะ
ดังนั้นใครที่มาเดินเทรลใน ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ถึงแม้จะไม่ใช่เส้นทาง Lake Circular Trail แต่เราก็จะยังได้สัมผัสไปกับบรรยากาศของป่าที่เต็มไปด้วยต้นไซเปรสหลากหลายสายพันธุ์ที่ปกคลุมผืนป่าเอาไว้ และตามทางเดินยังเต็มไปด้วยตะไคร่น้ำที่ขึ้นปกคลุมอยู่หนาทึบ ทำหน้าที่เหมือนชั้นโฟมดูดซับเสียงตามธรรมชาติ เสมือนเราได้เดินเทรลอยู่ในห้องที่ถูกควบคุมเสียงด้วยธรรมชาติ ในทุกย่างก้าวที่เดินผืนป่าก็จะเงียบสงบ มีเพียงเสียงลม เสียงต้นไม้ และเสียงของเหล่าแมลงดังแทรกเข้ามาอยู่เป็นระยะ มันเหมือนเราได้หลุดเข้ามาอยู่ในพื้นที่เงียบสงบ และให้เสียงของธรรมชาติช่วยบำบัดจิตใจ
และจากทั้งหมดที่ก๊อตเล่ามานี้ นี่ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม ที่นี่ถึงกลายเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวไต้หวัน และนักท่องเที่ยวอีกมากมาย ก๊อตการันตีเลยว่า ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) สวยสับมาก ความเขียว ความภูเขา ความธรรมชาติ คือเริ่ดสุด ไม่เชื่อเลื่อนอ่านรีวิวเต็มได้เลยย
แพลนเที่ยวไถ่ผิงซาน (Taipingshan)
สำหรับแพลนเที่ยวไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ของก๊อตนั้น ต้องบอกก่อนว่าเป็นการโร้ดทริปเที่ยวทั้งหมด โดยมาไต้หวันรอบนี้ก๊อตเริ่มโร้ดทริปตั้งแต่กีลัง (Keelung) มาที่นิวส์ ไทเป (New Taipei) แล้วขับมาที่อี๋หลาน (Yilan) และมาจบที่ภูเขาไถ่ผิงซาน ซึ่งแผนเที่ยวในไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ส่วนใหญ่จะเป็นการไปเดินเทรล สำรวจป่าในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไถ่ผิงซาน (Taipingshan National Forest Recreation Area) เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งใครจะมาตามรอยเที่ยวที่นี่นั่น สามารถมาเช้าเย็นกลับได้เลย แต่ถ้าจะให้ดี คืนก่อนเที่ยวอยากให้หาที่พักใกล้ๆ กับอุทยาน เพื่อที่ตอนเช้าเราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาขับรถนาน จะได้เซฟเวลา มีเวลาเหลือไปเที่ยวเยอะขึ้น และนี่ก็คือแพลนเที่ยวของก๊อตที่ไถ่ผิงซาน (Taipingshan)
สำหรับใครจะเข้าไปเที่ยวในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไถ่ผิงซาน (Taipingshan National Forest Recreation Area) เค้าจะมีเก็บค่าบริการตรงทางเข้า เหมือนตอนเราเข้าอุทยานที่บ้านเรา ที่จะมีซุ้มของเจ้าหน้าที่อุทยานคอยเก็บเงินค่าเข้าแบบนั้นเลย ซึ่งทุกคนสามารถซื้อตั๋วเข้าที่ด้านหน้าได้เลย แต่ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาซื้อตั๋วหน้างาน สามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ล่วงหน้าได้เช่นกัน สามารถซื้อผ่าน Klook และ KKday ได้เลย [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
ที่เที่ยวในไถ่ผิงซาน (Taipingshan) | 1. Jianqing Huaigu Trail 2. Bong Bong Train 3. Maosing Reminiscent Trail (Lower Loop + Upper Loop) 4. Cuifeng Lake Circular Trail (* เพิ่มเติม หากเวลาเหลือ) |
ที่พักในไถ่ผิงซาน (Taipingshan) | Sun Hola Villa |
ส่วนลด OTA |
วิธีการเดินทางมาไถ่ผิงซาน (Taipingshan)
วิธีเดินทางมาเที่ยวไถ่ผิงซาน (Taipingshan) เราสามารถเดินทางได้หลายวิธีเลย ซึ่งตัวก๊อตและเพื่อนนั้นเราขับรถโร้ดทริปกันมาเอง ก็จะสะดวกสบายหน่อย อยากจะขับมาถึงตอนไหน หรือกลับตอนไหนก็ขึ้นอยู่กับเราเลย แต่ถ้าใครมาเที่ยวแล้วไม่ได้เช่ารถขับแบบก๊อต ยังคงสามารถเดินทางมาเที่ยวที่นี่จากไทเปได้สบายด้วยรถสาธารณะ หรือจะนั่งรถไฟมาและต่อรถบัสก็ได้ แต่บอกก่อนว่าค่อนข้างลำบากพอสมควร อีกทั้งรถบัสเองยังมีแค่รอบเดียวต่อวันด้วย ใครชอบแบบไหน ถนัดทางใด สามารถตามตัวเลือกที่ก๊อตคัดมาให้ด้านล่างนี้ได้เลย
วิธีการเดินทางจาก ไทเป (Taipei) <-> ไถ่ผิงซาน (Taipingshan)
- แท็กซี่ : นั่งรถไฟจาก Taipei Main Station มาที่สถานีรถไฟลั่วตง (Luodong Station) แล้วนั่งแท็กซี่มาลงที่ ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ได้เลย ใช้เวลาเดินทาง 1:14 ชั่วโมง ราคาประมาณ NT$1,150-1,420 (~1,300-1,600 บาท)
* ใครที่ไม่อยากนั่งรถไฟมา เราสามารถเรียกแท็กซี่จากไทเป (Taipei) ให้มาส่งที่ ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ได้เลย ใช้เวลาเดินทาง 2:10 ชั่วโมง ราคาประมาณ NT$3,450-4.170 (~3,900-4,700 บาท) - รถบัส : นั่งรถไฟจาก Taipei Main Station มาที่สถานีรถไฟอี๋หลาน (Yilan Station) หรือ สถานีรถไฟลั่วตง (Luodong Station) จะมีขรถบัสไปไถ่ผิงซาน (Taipingshan) อยู่สายเดียว และมีรอบเดียวต่อวันคือ สาย 1750/1750A โดยออกจากสถานีรถไฟอี๋หลาน (Yilan Station) เวลา 07.40น. และออกจากสถานีรถไฟลั่วตง (Luodong Station) เวลาประมาณ 8.00น. และยิงยาวมาลงที่ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) เวลา 10:30น. ใช้เวลาเดินทาง 2.5 ชั่วโมง ราคา NT$240 (~275 บาท) สำหรับรถบัสขากลับ จะออกจากไถ่ผิงซาน (Taipingshan) เวลา 14:30น. และถึงสถานีรถไฟลั่วตง (Luodong Station) เวลา 16.10น. และสถานีรถไฟอี๋หลาน (Yilan Station) เวลา 17.50น. **ใครจะมาเที่ยวด้วยรถบัส ควรนอนค้างคืนบนไถ่ผิงซาน (Taipingshan)
- เช่ารถขับ : ใครที่ชอบขับรถเที่ยว ที่ทั้งสะดวกและไม่ต้องเวลารอขึ้นรถสาธาณะ แนะนำให้เช่ารถขับเที่ยวโลด โดยตอนนี้นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถขับเที่ยวเองได้แล้วในไต้หวันนะ สำหรับใครที่อยากเช่ารถขับเที่ยวเอง แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง รวมถึงต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง นี่รวมข้อมูลที่ต้องรู้ทั้งหมดในการเช่ารถขับในไต้หวันมาฝากแล้ว คลิกอ่านที่นี่ได้เล้ย
> เช็ครถและราคาเช่ารถในไต้หวันผ่าน Klook คลิก
> เช็ครถและราคาเช่ารถในไต้หวันผ่าน KKDay / Chailease / IWS
เที่ยวไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ด้วยทัวร์
ใครที่อยากเที่ยวหลายที่ แต่ไม่อยากขับรถ หรือนั่งรถสาธารณะ ก๊อตแนะนำให้ซื้อแพ็กเกจทัวร์ไปเลย ข้อดีคือเราไม่ต้องมานั่งแพลนเที่ยวเอง โดยจะมีไกด์พาเราเดินเที่ยว อีกทั้งมาคอยให้ข้อมูล หากเกิดปัญหาก็มีทางทีมทัวร์เค้าคอยดูแล โดยใครอยากมาเที่ยวกับทัวร์ สามารถจองผ่าน KKday ได้เลย [คลิกตัวเลือก 1] [คลิกตัวเลือก 2] หรือ สามารถจองผ่าน Klook ได้เช่นกัน คลิก เค้ามีโปรแกรมทัวร์แบบ One Day Trip จากไทเปมาไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ด้วย
Jianqing Huaigu Trail
เกริ่นก่อนว่าคืนก่อนที่ก๊อตขับรถขึ้นมายัง ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) นั้น ก๊อตพักอยู่ Sun Hola Villa แถวๆ เขตต้าตง (Dadong Township) ซึ่งเป็นย่านก่อนทางขับรถขึ้นไปยังไถ่ผิงซาน (Taipingshan) นั่นเอง ขับรถมาราวๆ 40 นาที เราก็มาถึง Jianqing Huaigu Trail ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไถ่ผิงซาน (Taipingshan National Forest Recreation Area) ซึ่งเวลาเราขับเข้ามาในเขตพื้นที่ป่าสงวนของเค้า เราจะต้องค่าเข้า NT$50-NT$200 (~57-230 บาท) โดยเค้าจะมีซุ้มเก็บเงินค่าเข้าคล้ายกับอุทยานแห่งชาติบ้านเราเลย
สำหรับใครที่ขับรถมากันเองแบบก๊อตนั้น ที่จอดรถจะอยู่เลยทางเข้าสำหรับเดินเทรลไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้นเราต้องเดินย้อนกลับลงมาตามทางเดินเลียบถนนท่ามกลางบรรยากาศของเนินเขา และต้นไม้เขียวขจี แต่ถ้าใครมาเที่ยวแบบเช่ารถพร้อมคนขับ สามารถบอกให้คนขับจอดส่งเราตรงทางเข้าเดินเทรลก่อนได้เลย หลังจากนั้นคนขับเค้าจะไปหาที่จอดรถเพื่อรอเรา และเมื่อเราเสร็จจากการเดินเทรลตรงนี้แล้ว ค่อยโทรเรียกให้เค้าวนกลับมารับก็ได้
สำหรับ Jianqing Huaigu Trail นั้น เป็นเส้นทางเดินเทรลระยะทาง 900 เมตร (ไปกลับ 1.8 กิโลเมตร) เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเทรลที่เดินง่ายม๊าก สร้างขึ้นบนทางรถไฟสาย Jiancing ซึ่งเคยเป็นพื้นที่ตัดไม้ในช่วงที่ไต้หวันถูกยึดครองโดยญี่ปุ่น สำหรับการตัดไม้ที่นี่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ช่วงเวลา คือ ตั้งแต่ปี 1914 เรียกว่า ไถ่ผิงซานเก่า (Old Taipingshan) และอีกช่วงต่อมาในปี 1937 ได้มีการย้ายการตัดไม้ไปยังพื้นที่ใหม่ คือ ไถ่ผิงซานใหม่ (New Taipingshan) ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไถ่ผิงซานในปัจจุบัน โดยทั้งสองพื้นที่นั้นสามารถนั่งกระเช้าเชื่อมถึงกันได้ และเดิมทีนั้นเส้นทางรถไฟมีความยาวอยู่ที่ 2.35 กิโลเมตร แต่เนื่องจากในปี 2013 ได้เกิดพายุไต้ฝุ่นพัดเข้าถล่มในเขตนี้อย่างรุนแรง ทำให้เหลือเส้นทางรถไฟเพียง 900 เมตร เท่านั้นเอง
เส้นทางเดินเทรลด้านในจะเป็นป่าที่มีทางเดินทอดยาวเข้าไปในพื้นที่ป่าสีเขียวๆ โดยมีรางรถไฟเก่าพาดไปด้วยกันกับทางเดิน บางโมเมนต์นี่เหมือนเดินอยู่ในช่องเขาขาด กับเส้นทางรถไฟสายมรณะที่กาญจนบุรีเลยแหละ ซึ่งทางเดินที่นี่เค้าทำดีเลย บรรยากาศภายในเหมือนอยู่ในกล่องดนตรีธรรมชาติ เสียงของนกร้อง เสียงลมพัดกระทบเข้ากับผืนป่า เกิดเป็นเสียงกรุ๊งกริ๊งราวกับมีเวทมนตร์ มันเหมือนกับเรากำลังถูกโอบอุ้มไปด้วยธรรมชาติเลย ยิ่งบางจุดของผืนป่านั้น เราจะได้สัมผัสไปกับละอองหมอกที่ปกคลุมไปทั่วเลย ใครที่ชอบเดินป่าที่มีความชุ่มชื้นสูง หรือชอบฟีลอาลีซาน จะต้องชอบที่นี่ เพราะก๊อตคิดว่าบรรยากาศเค้าคล้ายๆ กันเลย
จุดไฮไลท์แรกของเส้นทางเดินเทรลนี้คือ รางรถไฟเก่าที่พาดผ่านช่องโหว่ที่เค้ามีฐานไม้คอยรองรับรางรถไฟอยู่ ซึ่งความสวยของบริเวณนี้คือมู้ดโดยรวมที่รางรถไฟนั้นถูกปกคลุมไปด้วยมอสสีเขียวๆ พร้อมกับสะพานทางเดินที่ตั้งอยู่คู่ขนานกัน เอ้อ มู้ดมันดี ดูแล้วขลังและดีมากเล้ย
ผ่านจากตรงนี้ เมื่อเดินต่อไปอีกนิดก็เจอเข้ากับน้ำตกขนาดเล็กๆ ให้เราได้แวะชื่นชมธรรมชาติ และรับความเฟรชจากบรรยากาศรอบๆ ได้อีก มันดีจริงๆ
ไม่นานก็จะมาถึงจุดไฮไลท์ที่สอง กับสะพานรางรถไฟเก่าที่ยกสูงจากพื้นดินและพาดตัวไปยังอีกฝั่ง โดยมีน้ำตกเล็กๆ ไหลลอดลงมายังใต้รางรถไฟ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ถ่ายรูปสวยเอาเรื่องเลยแหละ สำหรับสะพานรางรถไฟเก่าพวกนี้ เค้าจะไม่ให้เราไปวิ่งเล่นหรือยืนบนรางรถไฟนะ เพราะรางรถไฟเค้าค่อนข้างเก่า และเค้าต้องการอนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังได้เห็นประวัติศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้ด้วย ดังนั้น เราต้องเดินไปตามทางที่เค้าปูไว้นะเอ้อ
ก่อนถึงสุดทางเดินเทรลนี้ เราจะยังเจอกับสะพานแขวนเชือกที่ใช้เป็นทางข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งหุบเหวเค้าไม่สูงมากนัก แต่มันจะมีความเสียวหน่อยๆ ที่ตัวสะพานมันเดินได้ทีละคน ซึ่งที่เหยียบมันเท่ากับสองฝ่าเท้าเราเอง จังหวะเดินข้ามเราจะต้องทรงตัวกันดีๆ แล้วเอามือจับราวทั้งสองฝั่งให้มั่น เพราะมันค่อนข้างโยกพอสมควรเลยแหละ ใครกลัวความสูง อาจจะน่ากลัวหน่อยๆ แต่มันไม่มาทางเลือกแล้ว เพราะถ้าเราต้องการเดินให้สุดเส้นทางเดินเทรลคือเราต้องข้ามสะพานอันนี้ไปให้ได้แหละ ฮ่า
และเมื่อเราข้ามสะพานแขวนมาแล้ว เราสามารถเดินมาตามทางเรื่อยๆ จนถึงสุดปลายทางที่มีประตูไม้ปิดกั้น รวมถึงมีเก้าอี้ไม้ตั้งอยู่ให้นั่งพักผ่อนให้หายเหนือยพอกรุบกริบ เสร็จแล้วจากนั้นเราก็เดินกลับออกมายังทางเดิมที่เราเข้ามา ถือเป็นอันจบการเดินเทรลเส้นทางนี้แบบชิลๆ บอกเลยว่าคนส่วนมาก เค้าใช้เวลาเดินไปกลับเส้นทางนี้แค่ราวๆ 30 นาที แต่นี่มันสายถ่ายรูปไง ถ่ายรูปเยอะม๊าก ก๊อตเลยใช้เวลาเดินไปชั่วโมงนึงเลย 55555
Bong Bong Train
หากใครเคยดูรีวิวเที่ยวไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ก๊อตคิดว่าจะต้องเคยผ่านตากับภาพขบวนรถไฟสีเหลืองสุดปุ๊กปิ๊กที่วิ่งอยู่บนทางโค้งในป่าเขียวๆ กันมาบ้างแล้ว ซึ่งเจ้ารถไฟสีเหลืองที่ก๊อตพูดถึงนี้ คือ เจ้ารถไฟบองบอง (Bong Bong Train) ที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของไถ่ผิงซานนั่นเล้ย โดยทุกคนที่มาขึ้นรถไฟบอง บอง นั้น เค้ามาเพื่อจุดหมายปลายทางเดียวกันเลย นั่นก็คือการขึ้นไปเดินเทรลที่ด้านบน Maosing Reminiscent Trail หนึ่งในเส้นทางเดินเทรลในไถผิงซาน (Taipingshan) ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
สำหรับรถไฟบองบอง (Bong Bong Train) จะมีอยู่ 2 สถานี คือ สถานีไถ่ผิงซาน (Taipingshan Station) ตรงบริเวณ ไถ่ผิงซานวิลล่า (Taipingshan Villa) และอีกสถานี คือ สถานีเหมาซิง (Maosing Station) ที่มีทางเดินเทรล Maosing Reminiscent Trail ที่เรากำลังจะไปเดินเที่ยวกันนั่นเอง ซึ่งเจ้ารถไฟเค้าจะออกเดินทางทุกๆ ครึ่งชั่วโมง โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 7:30-14:30 น. ซึ่งเราสามารถซื้อตั๋วที่หน้างานได้เลย ถ้าเราซื้อตั๋วในรอบไหน เจ้าหน้าที่เค้าจะออกตั๋วรอบกลับโดยกำหนดรอบเวลากลับออกมาให้เรียบร้อยเสร็จสรรพเลย ซึ่งเราจะมีเวลาเดินเทรลเล่นอยู่ด้านบนเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น ถามว่าเวลาพอไหม บอกเลยว่าเหลือเฟือ 555555
สำหรับรถไฟบองบอง สีเหลืองสุดปุ๊กปิ๊กนั้นมีลักษณะเป็นรถไฟโครงเหล็กแบบไอน้ำ โดยช่วงที่ทุกคนตั้งตารอคอยและมักจะคว้ากล้องมาถ่ายรูปก็คือจังหวะที่รถไฟบองบอง เค้าแล่นหักโค้งไปตามแนวเขานี่แหละ ตัวรถไฟขบวนจิ๋วนี้จะเอนโค้งตัดไปกับสีเขียวๆ ของภูเขาและรั้วกั้นรางสีแดง ท่ามกลางภูเขาสีเขียวๆ และต้นไม้ที่แสนจะร่มรื่น ระหว่างนั่งไปก็จะได้ยินเสียงของรถไฟดัง ‘บอง บอง’ ก้องไปทั่วผืนป่า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของรถไฟเค้าเลย บอกเลยว่าบรรยากาศและภาพที่ตาเห็นคือสวยจริง และถือเป็นจุดไฮไลท์ที่คนอยากมามากกว่าการมาเดินเทรลข้างบนเสียอีกเอ้อ 55555
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
เมื่อเรานั่งรถไฟมาประมาณ 20 นาที ก็มาถึงกับสถานีเหมาซิง (Maosing Station) ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางเดียวของเส้นทางนี้ เพราะฉะนั้นพวกแกรไม่ต้องกลัวหลงทาง หรือกลัวว่าจะลงผิดสถานี เพราะเค้ามีสถานีปลายทางแค่ที่นี่ที่เดียวเท่านั้นเด้อ
Maosing Reminiscent Trail
Maosing Reminiscent Trail เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเทรลท่ามกลางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเค้าจะแบ่งออกเป็น 3 เส้นทาง คือ Lower Loop, Upper Loop และ Maosing Trail Main Line นั่นเอง ถ้าใครที่ไม่ได้เน้นมาถ่ายรูปเยอะมากมายเหมือนก๊อต แต่ตั้งใจขึ้นมาเพื่อมาเดินเทรลชมธรรมชาติแบบจริงจัง ในเวลาหนึ่งชั่วโมงที่เรามีอยู่ด้านบนนี้ ก๊อตคิดว่าเรามีเวลาเหลือๆ ในการเดินเก็บเทรลทั้ง 3 เส้นทางได้แบบสบายมากเลยแหละ ส่วนก๊อตเองนั้นเก็บแค่ Lower Loop และ Upper Loop เพราะมัวแต่ถ่ายรูปเยอะ เพราะเสร็จสองอันแล้ว ยังเหลือเวลาอีกประมาณนึง แต่ด้วยความที่กลัวจะกลับมาขึ้นรถไฟไม่ทัน นี่เลยตัดสินใจไม่เก็บ Maosing Trail Main Line แหละ ฮือ
Lower Loop
Lower Loop คือเส้นทางเดินเทรล ระยะทาง 250 เมตร ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะต้องเดินอ้อมลงไปด้านล่างจากสถานีเหมาซิง (Maosing Station) แม้ว่าจะเป็นเส้นทางระยะสั้นๆ แต่ระหว่างสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าสนสูงตระหง่านราวกับโอบกอดเราไว้ และยังมีต้นมอสมากมายที่ขึ้นเรียงรายอยู่ตามต้นไม้ตลอดสองข้างทางเดินที่ทำอย่างดีเลยแหละ นอกจากนี้เค้ายังมีตอไม้หน้าตาแปลก อยู่ตามจุดต่างๆ ของเส้นทางเดินเทรลให้เราได้เดินเข้ามาดูใกล้ๆ และจินตนาการรูปร่างหน้าตาได้อีกด้วย โดยใครที่กังวลว่าเส้นทางเดินเทรลเค้าจะเดินลำบากไหม ก๊อตบอกเลยว่า Lower Loop มันเดินง่ายมาก สามารถเดินได้สบายๆ เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยเลยเชียวล่ะ
ส่วนตัวก๊อตคิดว่า Lower Loop เป็นอีกหนึ่งเส้นทางเดินเทรลที่มู้ดโคตรดี เดินแล้วรู้สึกสดชื่นมาก ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เขียวขจี สบายตาไปหมด อีกทั้งบรรยากาศก็เงียบสงบ เพราะถ้าเราหยุดเดินและฟังธรรมชาติอย่างตั้งอกตั้งใจ เราสามารถได้ยินเพียงเสียงของสัตว์ตัวเล็กตัวน้อยที่ส่งเสียงเจื้อยแจ้วท่ามกลางเสียงลมเบาๆ ที่ลู่ลมไปกับต้นไม้อย่างกับเครื่องดนตรีชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว โดยรวมแล้ว Lower Loop เป็นเส้นทางเดินเทรลที่เหมือนเราได้เข้ามาฟังเสียงธรรมชาติ และได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเองได้มากขึ้นจริงๆ Upper Loop
Upper Loop
ใครยังไม่เต็มอิ่มกับการเดินเทรล สามารถเดินลัดเลาะต่อไปยังเส้นทางตรงข้ามของสถานีเหมาซิง (Maosing Station) ที่เราจะได้วนขึ้นไปอีกเส้นทาง Upper Loop เส้นทางเดินเทรลที่มีระยะทางเท่ากันกับ Lower Loop แต่เค้าจะมีความแตกต่างจากกันนิดหน่อย ด้วยทางเดินที่ดิบและเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยบรรยากาศของเส้นทางนี้ก็ยังคงร่มรื่น มู้ดเหมือนกับ Lower Loop ที่สองข้างทางยังเป็นป่าสนสูงใหญ่ ตามพื้นดินเต็มไปด้วยต้นมอสขึ้นเรียงราย แต่ที่มีให้เห็นเพิ่มเติมคงเป็นต้นไม้หน้าตาแปลกๆ ที่ไม่คุ้นตาขึ้นอยู่เต็มไปหมด ท่ามกลางบรรยากาศฉ่ำๆ ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นในทุกย่างก้าวเลยแหละ
Maosing Trail Main Line
เส้นทางสุดท้ายในเส้นทางเดินเทรลที่ Maosing Reminiscent Trail คือ Maosing Trail Main Line เส้นทางเดินเทรลหลัก ระยะทาง 1 กิโลเมตร ที่ก๊อตบอกก่อนว่าเส้นทางนี้ก๊อตไม่ได้มาเดิน เพราะเราต้องเตรียมตัวไปรอรถไฟเพื่อกลับลงไปข้างล่างกันแล้ว โดย Maosing Trail Main Line จะเป็นเส้นทางที่เดินไปตามทางรถไฟจาก สถานีเหมาซิง (Maosing Station) โดยเป็นเส้นทางเดินลัดเลาะไปตามแนวเขาที่เต็มไปด้วยป่าสนและรางรถไฟเก่าที่ยาวไปตลอดเส้นทาง ใครที่ยังเวลาเหลือก็สามารถเดินต่อในเส้นทางนี้ได้เล้ย
สรุปแล้ว ถามว่าเวลา 1 ชั่วโมง เราสามารถเดินเทรลได้ครบทั้ง 3 เส้นทางเลยไหม ก๊อตตอบได้เลยว่า เดินได้ครบแน่นอน แต่ด้วยความที่ก๊อตและเพื่อนไปกัน 4 คน และแต่ละคนก็สายถ่ายรูป ทำคอนเท้นต์ทั้งนั้น เราเลยใช้เวลาถ่ายรูปเล่นในแต่ละจุดค่อนข้างนาน (แบบนานม๊าก 55555) ก็เลยไม่ได้ไปเก็บเส้นทางเดินหลักต่อ สำหรับใครที่เป็นสายเดินเทรลและชอบความเงียบสงบ อยากมาปล่อยใจไปกับเสียงของธรรมชาติ Maosing Reminiscent Trail เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ควรค่ากับการมาเดินเทรลมาก คือโคตรดีย์!
จบทริปเที่ยวไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ที่ไต้หวันของก๊อตในครั้งนี้แล้ว ซึ่งนี่เป็นการมาเที่ยวไต้หวันครั้งที่ 4 ในชีวิตเลย บอกเลยว่า ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) เป็นหนึ่งในป่าที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งในไต้หวันก็ว่าได้ ใครที่ชอบการเดินเทรลจะต้องหลงรักที่นี่ เนื่องด้วยเค้ามีสถานที่เที่ยวให้เราได้มาเดินเทรลหลากหลาย ทุกเส้นทางนั้นเงียบสงบมาก อีกทั้งเส้นทางเดินเทรลต่างๆ ก็เดินง่าย เหมาะกับคนทุกไลฟ์สไตล์ และสำหรับใครที่เคยมาเที่ยวอาลีซาน แล้วชอบในความธรรมชาติของเค้า ต้องจดชื่อไถ่ผิงซาน (Taipingshan) เข้าลิสต์เที่ยวไต้หวันเพิ่มด้วย เพราะที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ธรรมชาติดีงามมาก ควรค่าแก่การมาปล่อยใจจอยๆ ให้ธรรมชาติบำบัดสุดๆ
ที่พักในไถ่ผิงซาน (Taipingshan)
สำหรับการมาเที่ยวไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ก๊อตแนะนำเลยให้เรามานอนค้างหนึ่งคืน ซึ่งเราจะมีตัวเลือกอยู่ 2 แบบคือ แบบแรกที่ก๊อตอยากแนะนำมากที่สุดก็คือ ไปนอนที่พักด้านบน ตรงใจกลางไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ในตัวอุทยาน ซึ่งเป็นที่พักของอุทยานเค้าเองเลยคือ Taipingshan Villa และ Cueifong Villa มีตั้งแต่แบบโฮสเทล ห้องส่วนตัว รวมถึงเป็นบ้านพักเลยแหละ โดยเค้าจะเปิดให้จองห้องพักล่วงหน้าเพียงแค่ 2 เดือน ผ่านเว็บไซต์ของอุทยานเท่านั้น เมื่อถึงเวลาเปิดให้จองปุ๊บ ห้องพักคือเต็มไวมาก ซึ่งตัวก๊อตเองก็จองไม่ทัน เพราะห้องเค้ามีจำกัดจริงๆ
ทีนี้ ก๊อตเลยเหลืออีกตัวเลือกคือ เลือกมานอนด้านล่างก่อนทางขึ้นไปยังไถ่ผิงซาน (Taipingshan) นั่นเอง โดยย่านที่ก๊อตเลือกคือแถวๆ ย่านต้าถง (Datong Township) ในเมืองอี๋หลาน (Yilan) ซึ่งตรงนี้ถือเป็นบริเวณที่ใกล้ทางขึ้นมากที่สุด โดยระยะเวลาขับรถจากนี้ไปยังไถ่ผิงซาน (Taipingshan) คือราวๆ 40 นาที เท่านั้นเอง ถือว่าได้อยู่ ซึ่งที่พักที่ก๊อตเลือกพักก็คือ Sun Hola Villa นี่แหละ อ่านต่อโลด
Sun Hola Villa
Sun Hola Villa ที่พักตากอากาศหลังใหญ่ ตั้งอยู่เชิงเขาบนเส้นทางที่มุ่งหน้าไปสู่ไถ่ผิงซาน (Taipingshan) บรรยากาศบ้านพักเค้าถือว่าดีมากอยู่นะ สามารถมองวิวเมืองอี๋หลาน (Yilan) ได้ไกลๆ รวมถึงภูเขาได้สวยๆ เลย ถือเป็นอีกหนึ่งที่พักที่ก๊อตคิดว่ามันเหมาะกับคนที่จองห้องพักในในไถ่ผิงซาน (Taipingshan) ไม่ทัน แต่ยังอยากนอนฟีลท่ามกลางธรรมชาติ ที่ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองโดยค่าห้องที่นี่ ก๊อตได้มาต่อคืนอยู่ที่ 4,200 บาท หาร 4 คนออกมาแล้ว ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามากอยู่
ภายในห้องพักที่ก๊อตนอน คือเป็นขนาดใหญ่แบบ Duplex ที่นอนได้ 4 คน โดยมีสองเตียงใหญ่ที่นอนได้แบบสบายๆ เลย แถมมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โซฟา ทีวี ตู้เย็น โต๊ะกลาง และ ห้องน้ำขนาดใหญ่ม๊าก คือดีมากเลยแหละ
ในส่วนของอาหารเข้าที่ Sun Hola Villa ถือว่าได้อยู่แบบฝากท้องกับเค้าได้ประมาณนึง ตัวเลือกอาหารไม่เยอะ รสชาติอาหารธรรมดา พอถูไถได้ 5555555
โดยรวมแล้ว Sun Hola Villa เป็นที่พักฟีลโฮมมี่แบบครอบครัวเค้าทำกันเอง ด้วยความที่เค้าเป็นเหมือนบ้านพักตากอากาศหลังใหญ่ที่เจ้าของเค้ามาแบ่งทำห้องพักแยกเป็นชั้นๆ อยู่ภายใน มันเลยให้อารมณ์ที่อยู่แล้วเหมือนอยู่บ้านเพื่อนแหละ
รีวิวเที่ยวไต้หวันหมดจาก HASHCORNER!
โซนภาคเหนือ ไตหวัน
1. ไทเป (Taipei) #1
2. ไทเป (Taipei) #2
3. หยางหมิงซาน (Yangmingshan)
4. จิ่วเฟิ่น-จินกัวสือ (Jiufen-Jinguashi)
5. ปี๋โถวเจี่ยว (Bitoujiao)
6. ซินจู๋ (Hsinchu)
7. จีหลง (Keelung)
8. นิวไทเป ซิตี้ (New Taipei City)
9. เถาหยวน (Taoyuan)
โซนภาคกลาง ไต้หวัน
10. ไทจง (Taichung)
11. ซันมูนเลค / ทะเลสาบสุริยันจันทรา (Sun Moon Lake)
โซนภาคใต้ ไต้หวัน
12. ไถหนาน (Tainan)
13. อาลีซาน (Alishan)
14. ชิงจิ้ง-เหอหวนซาน (Cingjing-Hehuanshan)
โซนภาคตะวันออก ไต้หวัน
15. ฮัวเหลียน (Hualien)
16. ทาโรโกะ (Taroko)
17. ไถตง (Taitung)
18. เกาสง (Kaohsiung)
19. เขิ่นติง (Kenting)
20. ไถ่ผิงซาน (Taipingshan)
21. อี้หลาน (Yilan)
สิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการเที่ยวไต้หวัน
22. เช่ารถขับในไต้หวัน [อัปเดท 2023]
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡
1 comment
สวัสดีค่ะ
อยากทราบว่าไถผิงซานนี่ไปช่วงเดือนไหนเหรอคะ อากาศเป็นยังไงบ้าง แพลนไปไต้หวันปลาย พค ยังหาที่หลบร้อนไม่ได้เลยค่ะ