ภูเก็ต คือ จุดมุ่งหมายระดับโลกที่คนต่างชาติหลายคนจะนึกถึงเป็นที่แรกๆ เมื่อมาเที่ยวไทย โดดเด่นด้วยหาดที่โคตรสวย อีกทั้งยังมีเกาะให้เราได้เที่ยวฮ็อปปิ้งได้หลากหลายอีก บอกเลยว่าภูเก็ตดีมาก แถมอากาศยังดี น้ำใสทะเลสวย ซึ่งทริปนี้ก๊อตจะพาทุกคนไปเที่ยวในภูเก็ต ตั้งแต่ภูเขาที่มีวิวปังๆ ถ่ายรูปสวย จนถึงชายหาด ทะเล และเกาะสวรรค์ในระดับเวิลด์คลาส ที่เมื่อทุกคนเห็นแล้วต้องกระตุ้นความอยากเราให้มาเที่ยวที่ภูเก็ตแน่นอน
14 ที่เที่ยวภูเก็ต ชายหาด-จุดชมวิว-คาเฟ่-ที่พัก
ชายหาด | 1. บานานาบีช (หาดกล้วย) 2. หาดยะนุ้ย |
จุดชมวิว | 3. ผาหินดำ 4. แหลมกระทิง 5. จุดชมวิวกังหันลม 6. แหลมพรหมเทพ |
สถานที่เที่ยว | 7. Rock Beach Swing |
เกาะ | 8. เกาะพีพี 9. เกาะไข่นอก |
คาเฟ่ | 10. Chino Cafe Gallery 11. RYN Authentic Tea & Slow Drop Coffee 12. Dou Brew Coffee & Craft |
ที่พัก | 13. Renaissance Phuket Resort and Spa 14. Le Meridien Phuket Beach Resort |
ส่วนลด OTA |
ผาหินดำ (Black Rock Viewpoint)
หากถามถึงจุดชมวิวในภูเก็ตที่เราสามารถเห็นวิวได้รอบทิศได้แบบกว๊างกว้างในภูเก็ต นี่ขอแนะนำให้มาเที่ยว ผาหินดำ (Black Rock Viewpoint) ที่แต่ก่อนเป็นจุดชมวิวลับๆ แต่กำลังเริ่มเป็นที่รู้จักจนใครหลายคนต้องปีนตามขึ้นมาดูกัน ซึ่งก๊อตบอกเลยว่าไม่ผิดหวัง เพราะสามารถเห็นวิวตั้งแต่หาดในหาน กังหันลมตั้งโดดเด่นอยู่บนเขา หาดยะนุ้ย แหลมพรหมเทพ รวมถึงกาะเฮได้เลยทีเดียว คือโคตรดี!
แต่เดี๋ยวก่อนนะ ก่อนที่เราจะมาถึงจุดชมวิว ผาหินดำ เราอาจจะต้องขับรถขึ้นมาบนทางขรุขระซักหน่อย แต่ทางนี้รถยนต์ทุกชนิดสามารถขับขึ้นมาได้นะ ยกเว้นแต่จะฝนตกที่ทำให้ทางนั้นอาจจะลื่นและเป็นโคลน ดังนั้น ถ้าฝนตกนี่โคตรไม่แนะนำให้ขับรถขึ้นมาแหละ เพราะทางน่าจะเละมาก
เมื่อเราขับรถมาสุดทางที่มีป้ายสีดำ ผาหินดำ เรียบร้อยแล้ว เราจะต้องเดินขึ้นไปอีกประมาณ 200 เมตร ผ่านป่าเล็กๆ และชันหน่อยๆ ถือว่าเป็นการออกกำลังกายเรียกเหงื่อกันก่อนจะไปพบกับวิวอลังการล้านแปดที่ถือเป็นรางวัลให้กับตัวเองนั่นเอง สรุปคือแนะนำมากกก เพราะวิวสวยมาก และคุ้มค่าแก่การมาจริงๆ เว้ย
บานานาบีช (หาดกล้วย)
บานานาบีช หรือ หาดกล้วย ที่นี่ ไม่ใช่บานาน่าบีชที่เกาะเฮนะเว้ย แต่ บานาน่าบีช อันนี้คือหาดที่อยู่บนเกาะภูเก็ต โดยเป็นหาดเล็กๆที่ซ่อนตัวอยู่ด้านล่างของเขาที่มีถนนหลัก ตั้งไม่ไกลจากหาดในทอนนั่นเอง เอาดีๆ คือถ้าขับรถผ่านเฉยๆ เราอาจจะไม่รู้เลยว่าตรงนี้เค้ามีหาด เพราะมันมีแค่ป้ายเล็กๆ เขียนว่า ‘Banana Beach’ ซึ่งตรงป้ายนั้นเป็นทางลงเขาที่เราต้องเดินต่อไปอีก เพื่อไปยังบานาน่าบีชที่นี่นั่นเอง
ฟีลตอนนั้นเมื่อเราเจอ บานานาบีช อยู่ด้านล่างเขา คือโคตรเซอร์ไพรส์ ด้วยความที่มาถูกเวลาในตอนเย็นๆ ฟ้าค่อนข้างใส แสงดี บรรยากาศก็โคตรดี ทั้งหมดนี้คือทำให้บานาน่าบีช ที่นี่โคตรมีเสน่ห์ หาดสวยในขนาดกำลังดี ด้ายซ้ายและด้านขวาของหาดมีโขดหินสวยๆ เดินไปถ่ายรูปด้วยนี่คืออย่างปัง ทั้งหมดคือดี และโคตรชิล ชิลจนถึงขั้นที่เรานั่งเปื่อย นั่งเอื่อยบนหาดดูพระอาทิตย์ตกลับฟ้าที่บานานาบีชเลย อันนี้ดีจริง
แหลมกระทิง
ตอนแรกคิดว่าผาหินดำ คือที่สุดของความลำบากในการเดินเพื่อไปยังจุดชมวิว แต่ของจริงกลับไม่ใช่เว้ย ผาหินดำนี่กล้วยไปเลย ของจริงคือ แหลมกระทิง ที่นี่ให้เต็มสิบแบบไม่หัก ที่เราต้องเตรียมใจไว้ก่อนเลยว่า ทางโหดเอาเรื่อง เพราะระหว่างทาง เราต้องปีนป่ายหินเยอะแยะมากมาย รวมถึงเดินลัดเลาะภูเขาริมทะเลเพื่อไปยังส่วนของปลายแหลมกระทิงนั่นเอง
การมายังแหลมกระทิง ให้เราปักมาที่ ‘บ้านกระทิงภูเก็ตรีสอร์ท’ จากนั้นให้จอดรถด้านหน้ารีสอร์ท (แต่ถ้าคนเยอะ รถเยอะ แนะนำว่าอย่าเอารถเข้าถึงตัวรีสอร์ทแหละ ให้หาที่จอดด้านนอกแล้วเดินเข้ามาแทน) สุดทางตรงปลายทางด้านในของรีสอร์ท ให้เราเดินลงทางป่า เพื่อทะลุไปยัง ‘อ่าวเสนบังกะโล’ แล้วเดินลัดเลาะตามหินทางด้านขวาของหาด เพื่อไปยังแหลมกระทิงได้เลย
แหน่ะ เกริ่นโหดแบบนี้แต่อย่าพึ่งตัดแหลมกระทิงออกนะเว้ย เพราะนี่บอกก่อนเลยว่า ระหว่างทางจนถึงปลายทางคือโคตรสวย ไวบ์โคตรดี และนี่ขอให้ยกให้แหลมกระทิงคือจุดดูวิวพระอาทิตย์ตกที่ดีมากที่สุดแห่งหนึ่งของภูเก็ต เพราะทุกสิ่งตรงปลายแหลมกระทิงคือรางวัลที่โคตรคุ้มค่าแก่ความลำบากที่เราได้ปีนป่ายมาเลย แนะนำว่าต้องมา!
จุดชมวิวกังหันลม (Windmill Viewpoint)
จุดชมวิวกังหันลม หรือที่ฝรั่งเค้าเรียกกันว่า Windmill Viewpoint ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่ดี๊ดี ที่มีแลนด์มาร์คกังหันลมขนาดใหญ่ในสถานีพลังงานทดแทนตั้งอยู่เคียงข้างที่นี่ ตรงจุดชมวิวแห่งนี้ เราสามารถมองเห็นหาดยะนุ้ยเล็กๆ แหลมพรหมเทพไกลๆ รวมถึงหาดในหารได้อีก บอกเลยว่า จุดชมวิวแห่งนี้ค่อนข้างชิลเอาเรื่อง
ตรงนี้เค้ามีศาลาให้เรานั่งเปื่อยๆได้ ซึ่งถ้าใครเบื่อและไม่รู้จะไปไหนดี การหาเครื่องดื่มเย็นๆ ซักอันมานั่งจิบพร้อมดูวิวภูเก็ตสวยๆแบบนี้ ก็ชิลดี และถ้าวันไหนที่อากาศดีๆ ล่ะก็ ตรงนี้จะมีคนมาเล่นกระโดดร่ม ร่อนไปร่อนมาให้หวาดเสียวกันด้วยเน้อ ฮ่า
หาดยะนุ้ย
หาดยะนุ้ย คืออีกหนึ่งหาดเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ระหว่างแหลมพรหมเทพและหาดในหาน ซึ่งถ้าใครที่ชอบความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย นี่อยากแนะนำให้มาเที่ยวหาดยะนุ้ยมาก เพราะนอกจากจะสวยด้วยชายหาดขนาดพอดีและเกาะเล็กๆแล้ว ที่นี่เค้ายังนิยมกันมาพายเรือคายัคเล่นกันด้วยราคาที่น่ารัก ชั่วโมงละ 100 บาท/คน เท่านั้น
ช่วงที่ก๊อตมาคือตอนสายๆ นี่แทบไม่มีคนเลย หาดยะนุ้ยตอนนั้นเสมือนกลายเป็นหาดส่วนตัว ทะเลอย่างสวย น้ำอย่างใส โดยรวมคือดีเลยทีเดียวแหละ แต่ก๊อตว่า ถ้าเราอยากจะมาเที่ยวหาดยะนุ้ยให้พีคกว่านี้ แนะนำให้มาช่วงเย็นๆ และดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ไปด้วยเลย เพราะเค้าบอกกันว่า บรรยากาศดีมาก แถมที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสุดปังอีกที่หนึ่งของภูเก็ตเลยทีเดียวเชียว
Rock Beach Swing
ไม่ไกลจากหาดยะนุ้ย ใครที่ชอบถ่ายรูปรัวๆ แบบปังๆ ก๊อตแนะนำให้มาที่ Rock Beach Swing เพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะแหละ เพราะที่นี่เค้าจัดโซนริมทะเลให้เราได้ถ่ายรูปกันแบบเพลินๆ ด้วยฉากและพร็อพเก๋ๆ ที่สามารถถ่ายรูปกับทะเลสวยๆ ได้นั่นเอง ตั้งแต่บันไดสีขาวทอดยาวออกไปยังท้องฟ้า ซุ้มนก ชิงช้ายาวๆฟีลแบบบาหลี รวมถึงอีกหลายฉากที่สายถ่ายรูปน่าจะชอบกัน
ทั้งหมดนี้ เราสามารถมาถ่ายรูปที่ Rock Beach Swing ได้ โดยมีค่าเข้าสำหรับคนไทยที่ 250 บาท พร้อมน้ำดื่มเล็กๆ หนึ่งขวด และรถรับส่งจากเขาด้านบน ขับลงมาที่ Rock Beach Swing ด้านล่าง โดยถนนเส้นนี้เราไม่สามารถขับลงไปเองได้ เพราะทางชันมากนั่นเอง
ส่วนตัวก๊อตคิดว่าราคาค่าเข้าแรงไปนิดหน่อย ถ้าเค้าจะยืนราคานี้ ควรรวมเครื่องดื่ม (เช่น น้ำปั่น น้ำผลไม้) ซักแก้ว จะดีกว่านี้มาก แต่อย่างไรก็ตาม พนักงานในนั้นน่ารักและบริการดีแหละ ถ้าใครอยากถ่ายรูปแนวนี้ ก็ไปเที่ยวที่ Rock Beach Swing เค้าได้เลย
แหลมพรหมเทพ
แหลมพรหมเทพ นี่ถือเป็นแลนด์มาร์คประจำจังหวัดภูเก็ตที่ห้ามพลาดที่จะต้องมาเที่ยวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะที่นี่คือแหลมทางตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต สวยๆ ด้วยวิวที่มีกลุ่มต้นตาลบนแหลมที่ทอดยาวออกไปยังทะเล ซึ่งจุดนี้ถือเป็นอีกจุดที่เค้าบอกกันว่า เป็นจุดที่ดูพระอาทิตย์ลับขอบทะเลที่สวยที่สุดของประเทศไทยเลยทีเดียวแหละ โว้ววว
เสียดายไปนิด ช่วงที่ก๊อตไปเที่ยวแหลมพรหมเทพนั้น ไปตอนสายๆ ฟ้าใสและมีแดด และถึงแม้ก๊อตจะไม่ได้มาดูวิวพระอาทิตย์ตกทะเล แต่แหลมพรหมเทพตอนกลางวันก็สวยเอาเรื่องอยู่ และนี่ก็ยังแนะนำให้มาเที่ยวแหลมพรหมเทพเพื่อปักแลนด์มาร์ค หากเรามาเที่ยวภูเก็ตเป็นครั้งแรกในชีวิตนั่นเองเด้อ
ทัวร์เกาะเดยทริป หมู่เกาะพีพี-เกาะไข่นอก
มาเที่ยวภูเก็ตทั้งที จะไม่ออกทริปไปเกาะใกล้เคียงเลยก็น่าเสียดายอยู่ เพราะการเที่ยวเกาะต่างๆนี่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวภูเก็ตเลยนะ ซึ่งทริปรอบนี้ที่ก๊อตภูเก็ต ก๊อตได้ซื้อทัวร์แบบหนึ่งวัน ไปเที่ยวหมู่เกาะพีพีที่โด่งดังไปทั่วโลกจากการที่ภาพยนต์เรื่อง เดอะบีช (The Beach) ที่มี Leonardo DiCaprio แสดงเป็นพระเอก มาถ่ายทำที่อ่าวมาหยา ตรงเกาะพีพีเลนั่นเอง นอกจากการเที่ยวเกาะพีพีแล้ว ทัวร์ที่ก๊อตไปยังแวะเกาะไข่นอกให้เราได้ชิลๆ ก่อนกลับภูเก็ตอีก บอกเลยว่าดี เพราะนี่ถือว่าเป็น Gems ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันอยากมาซักครั้งในชีวิตเลยนะเว้ย
⚡️สำหรับรูททัวร์หมู่เกาะพีพี-เกาะไข่นอกรอบนี้ที่ก๊อตไป คือ จะไปที่หมู่เกาะพีพีก่อน โดยเริ่มที่เกาะพีพีเล คือที่อ่าวลิง ▸ อ่าวมาหยา-ถ้ำไวกิ้ง ▸ อ่าวปิเละ ▸ เกาะพีพีดอน (กินข้าว) ▸ เกาะไข่นอก
ซื้อทัวร์เกาะออนไลน์กับ KLOOK
ใครที่ขี้เกียจหาว่าจะไปซื้อทัวร์ที่ไหน การซื้อผ่านเว็บ KLOOK ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ค่อนข้างดีมาก แถม KLOOK เองก็ยังมีส่วนลดประจำเดือนต่างๆ เยอะมากอีกด้วย ยังไงลองส่องดูและเลือกได้เลยเด้อ ด้านล่างนี้จะแตกต่างกันที่ราคา รูทเส้นทาง รวมถึงผู้ให้บริการแต่ละเจ้า
Klook.com Klook.com Klook.com Klook.com
หาดลิง
จุดแรกที่เราได้ลงจากเรือหลังจากนั่งยาวมาเป็นชั่วโมงคือ หาดลิง ที่อยู่บนเกาะพีพีดอน พูดได้คำเดียวว่า ว้าวมาก เพราะมันสวยมากกกกก ทรายขาวเนียนละเอียด เหยียบแล้วนุ่มเท้าเลย แถมน้ำยังใสมาก เห็นน้ำสีฟ้า สีน้ำเงินแบบชัดเจน หาดลิงคือดี อาจเป็นเพราะก๊อตมาช่วงโควิด เลยไม่มีใครเลย ทำให้เราได้รูปสวยๆไร้คนแบบเยอะมาก เหมือนหาดนี้เป็นของเรา
อ่าวมาหยา
อ่าวมาหยา เป็นอะไรที่ก๊อตเสียดายมาก เพราะตอนที่ก๊อตไปเค้าปิดไม่ให้เข้า เนื่องจากเขาต้องการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิม เสียดายจริงๆ อ่าวมาหยา ได้ชื่อว่าเป็น สวรรค์ใต้ฟ้า วิมานบนดิน เลยนะ ถ้ามีโอกาสจะกลับมาแก้มือแน่นอน
อ่าวมาหยา ตั้งอยู่บนเกาะพีพีเล เกาะขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ อ่าวมาหยา เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติ จากการพังทลายของหน้าผาที่โอบล้อม แหว่งเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยวที่โอบล้อมด้วยเขาหินปูน
อ่าวปิเละ-ถ้ำไวกิ้ง
อ่าวปิเละ เป็นจุดไฮไลท์ของเกาะพีพีเลที่หลายคนอยากมาเห็นกับตาเลยแหละ ด้วยความที่ผืนน้ำสีเขียวของอ่าวปิเละล้อมรอบด้วยภูเขาสูง มีทางเข้าแคบๆ ที่เรือของนักท่องเที่ยวต่างทยอยกันเข้าไป และเมื่อผ่านพ้นประตูที่เป็นภูเขา เราจะเห็นอ่าวขนาดใหญ่ที่สวยม๊าก น้ำใสและนิ่งมากเหมือนสระว่ายน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ และนี่คือสวยจริง ไม่จกตา พอได้เห็นกับตาของจริง คือรู้เลยว่าทำไมทุกคนทั่วโลกต่างต้องมาสัมผัสความสวยของที่นี่นั่นเอง
สำหรับเรือทัวร์ของเรา เค้าก็จะวนอยู่ในอ่าวซักพักหนึ่ง จากนั้นเค้าก็จะปล่อยให้ลูกทัวร์ลงเล่นน้ำตรงนี้ ซึ่งเป็นอีกจุดที่น่าเล่นน้ำ รวมถึงสน็อคกิ้งดูปะการังใต้น้ำนั่นเอง ตัวก๊อตเองไม่ได้ลงน้ำ เพราะมีพี่คนนึงที่อยู่ในทัวร์เค้าอยากเช่าเรือหางยาวเหมาลำ แล้วถ่ายรูปสวยแทนการลงน้ำแทน ซึ่งทัวร์เค้าก็จัดการหาเรือให้ตอนนั้นเลยแหละ แต่ใช้เวลาอยู่พักหนึ่งกว่าจะหาได้ เพราะหัวหน้าทัวร์บอกว่า จริงๆมันต้องจองผ่านทัวร์ล่วงหน้าซักหนึ่งวันนั่นเอง แต่แล้วจนรอด เราก็ได้เรือหางยาวมาถ่ายรูปกันในราคาเหมา 1,700 บาท ซึ่งราคานี้ พี่คนที่เหมาเรือกับก๊อตด้วย เค้าบอกว่าถูกม๊ากกก (ที่ก๊อตได้ราคาถูกเพราะมาเที่ยวตอนช่วงโควิด) ราคาปกติคือแพงกว่านี้สองเท่าเลย แต่เอาจริง ส่วนตัวก๊อตคิดว่า ราคานี่ก็แพงมากๆแล้วนะ เอิ่บ
ใครที่อยากได้รูปนั่งหรือยืนกับหัวเรือคูลๆ ก็ลองหาเช่าเรือหางยาวกันดูเด้อ มาเที่ยวและอยากได้รูปดีๆ ก็ต้องยอมเปย์กันหน่อยแล้วล่ะ ยังไงลองถามทัวร์ที่เราจองก่อนไปดู ว่าเราสามารถเหมาเรือได้มั้ย ถ้าได้ก็ให้พี่ทัวร์เค้าจัดการโลด เราไม่ต้องไปหาเรือหางยาวเองเออเองเนอะ
เกาะไข่นอก
เกาะไข่นอก เป็นเกาะสุดท้ายของทริปเกาะพีพี-เกาะไข่นอก ที่เสมือนเป็นทางผ่านก่อนกลับภูเก็ตนั่นเอง ซึ่งเกาะไข่นอกนั้นเป็นเกาะเล็กๆ เดินวนไปวนมาจนครบได้ภายใน 15 นาที แต่เห็นเล็กๆแบบนี้ คือชิลสุดในทุกเกาะ ใครอยากทำอะไรคือฟรีสไตล์เลยจ้า ซึ่งอันนี้คือโคตรดีย์!
ใครอยากเล่นเจ็ตสกีก็จัดไป (คนละ 1,000 บาท) ใครอยากสน็อคกิ้งดูปลาก็เชิญได้ตรงบริเวณโขดหินข้างเกาะ ปลาเสือคือมารุมรอบตัวเราเลยแหละ ส่วนใครที่ไม่อยากทำอะไรเลย อยากนั่งเฉยๆ ก็แค่เช่าที่นั่งผ้าใบบนเกาะ นั่งเปื่อยๆ นอนเอื่อยๆ ชาร์จพลังให้กับชีวิตได้เลย คือดีจริงแหละ
ตัวก๊อตเองก็เปื่อย เดินถ่ายรูปเล่นคือสนุก เพราะเกาะไข่นอกเค้าก็สวยจริงๆ หาดทรายคือขาวมาก น้ำใสไปอีก และที่โดดเด่นของเกาะไข่นอกนี้คือเขาที่รูปร่างเหมือนเต่า และโขดหินด้านข้างเกาะ ที่เราสามารถถ่ายรูปได้อย่างปังๆ นั่นเอง
เราได้อยู่ที่เกาะไข่นอกประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จากนั้นไกด์ก็เรียกเราขึ้นเรือ เพื่อนั่งกลับไปยังภูเก็ต ซึ่งระยะเวลาที่ได้นั่งเรือตอนนั้นคือเร็วมาก ประมาณ 15 นาทีจากเกาะไข่ไปยังเกาะภูเก็ตแค่นั่นเอง คือโคตรใกล้
ซื้อทัวร์เกาะไข่อย่างเดียว
สำหรับใครที่อยากเที่ยวเกาะไข่เดี่ยวๆ จริงๆ ทัวร์เดย์ทริปจากเกาะภูเก็ตนั่นมีทัวร์ไปแต่เกาะไข่ด้วยนะ ทั้งแบบเต็มวันและครึ่งวัน ยังไงลองเสิร์จดูได้เลย คนให้บริการเยอะมากกกกก! แต่ถ้าใครขี้เกียจหา อยากจองออนไลน์เลยแบบรวดเร็วในราคาที่เท่ากัน สามารถจองที่ KLOOK ได้เหมือนกันเด้อ คลิกจากด้านล่างนี้ได้เลย
Chino Cafe Gallery
ร้านแรกที่เราจะจัดกันในภูเก็ต นี่จะขอแวะร้าน Chino Cafe Gallery กันก่อน ซึ่งร้านนี้จะบอกว่ากิ๊บเก๋ทีเดียว เพราะร้านเค้าเป็นทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร ร้านขนมหวาน และร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับในตัวเองแบบเสร็จสรรพ แถมร้านยังแต่งน่ารักด้วยโทนสีไม้ๆ คลาสสิก หน้าร้านเต็มไปด้วยซุ้มดอกไม้และจักรยานคิวท์ๆที่ให้สีสันแก่ย่านนี้ดูน่ารักมากขึ้นไปอีกก
เนื่องจากร้านนี้เป็นร้านแรกที่ได้แวะ นี่ก็เลยสั่งข้าวกันแบบเต็มที่เลย กับข้าวผัดกะเพราไก่ + ไข่ดาว (95 บาท) สลัดไก่เทอริยากิ (160 บาท) เต้าส้อ 4 ชิ้น (40 บาท) โกปี้ ออชาม (90 บาท) เยอะม๊ากกกก ฮ่าๆ
เรื่องรสชาติของอาหารคือดีม๊าก กระเพราะไก่ ไข่ดาว หน้าตาน่ากิน รสชาติอร่อย ส่วนสลัดไก่เทอริยากินั้น ให้ทั้งเนื้อไก่มาปริมาณมากพอสมควร โดยรวมคือให้ผ่านเลย ส่วนเต้าสอนั้น ที่นี่จะมีให้เลือก 2 รส คือ รสหวานกับรสเค็ม โดยเค้าจะขายชิ้นละ 10 บาท อยากกินเท่าไหร่ สั่งเท่านั้นได้ เรื่องรสชาตินั้น อร่อยเอาเรื่อง ใครที่มาภูเก็ตนี่ต้องกินเลยนะ เพราะเต้าส้อถือเป็นขนมขึ้นชื่อของที่นี่เด้อ
สำหรับตัวกาแฟของร้าน Chino Cafe Gallery เราได้สั่ง Signature ที่เป็นโกปี้ ออชาม ที่เป็นกาแฟอาราบิก้า 100% ผสมกับชา ตัวนี้มีความเป็นกาแฟไทยฟีลหวานมันหน่อยๆ ใครที่ชอบอะไรหวานๆ ตัวนี้คือต้องลอง
นอกจากอาหารและเครื่องดื่ม ที่นี่ยังมีขายเสื้อผ้าม่อฮ่อม ผ้าย้อมจากภาคเหนือด้วย (มาไกลม๊าก) รวมถึงเครื่องประดับด้วย ซึ่งถ้าใครชอบเสื้อผ้าแนวนี้ จะซื้อติดไม้ติดมือเป็นของฝากให้คนอื่น หรือใส่เองก็สวย ซึ่งก๊อตเองนั้นก็สอยเสื้อมาหนึ่งตัวแล้วใส่เลยทันที ฟีลมันใส่เที่ยวเมืองทะเลอย่างภูเก็ตก็ดูชิลดีไง๊ 555555
RYN Authentic Tea & Slow Drop Coffee
มาต่อกันร้านที่สองกับคาเฟ่ใหม่ล่าสุดในภูเก็ต บนถนนกระบี่ใจกลางเมืองเก่า กับร้าน RYN Authentic Tea & Slow Drop Coffee ที่ครบเครื่องทั้งเครื่องดื่มชาและกาแฟที่อยากให้มาลอง (มาก) ส่วนตัวบอกเลยว่าโคตรชอบกับบรรยากาศของร้านนี้ คือเราได้เห็นอุปกรณ์เครื่องชาวางเรียงรายแบบเก๋ๆ ได้เห็นการชงชาต่อหน้าแบบใกล้ๆ ดีไซน์ร้านมีความมินิมอลเล็กๆ มีความเป็นญี่ปุ่นเบาๆที่บรรยากาศสบายๆ ทำให้โมเมนต์ตอนที่เราอยู่ในร้าน คือมันดีจริง
ร้านนี้ถ้าใครไม่รู้ว่ามันอยู่ตรงไหน อาจจะหายากซักหน่อย เพราะร้านเค้าไม่ติดป้ายชื่อร้านอะไรเลย เห็นร้านสีขาวเล็กตามรูปนี้เมื่อไหร่ นั่นแหละคือ RYN Authentic Tea & Slow Drop Coffee 555555
อันที่อยากให้ลองเลยคือเครื่องดื่มตระกูลชาทั้งหมด โดยครั้งนี้ นี่ก็ได้สั่ง Matcha Latte (120 บาท) ที่เค้าชงจากใบชาแท้ส่งตรงจากเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น รสชาติคืออร่อยและดีย์มาก มัชฉะเข้มข้น ได้รสและกลิ่นเต็มๆ
และถึงแม้ร้านนี้จะเน้นชา แต่ถ้าใครเป็นคอกาแฟ เราก็สามารถหาเหตุผลมาที่ร้านนี้ได้เหมือนกัน เพราะเค้าก็มีเมนูกาแฟให้เราเลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบดริป และโคลบรูว ซึ่งอันที่ก๊อตได้สั่งคือ Cold Brew TH (100 บาท) ที่ใช้เมล็ดกาแฟไทยจอมทองจากเชียงใหม่ เสริฟในเหยือกโคตรเท่ที่ให้เรารินดื่มละเมียดละไมทีละช็อต บอดี้กาแฟต้องบอกว่าดีเลยล่ะ มันไม่ได้เข้มจ๋า แต่ให้ความสดชื่นดี ถ้าใครได้มา ต้องบอกว่าตัวกาแฟก็ไม่ทำให้ผิดหวังเหมือนกัน
Dou Brew Coffee & Craft
สำหรับใครที่ได้เดินถ่ายรูปเล่นกับตึกคิวท์ๆ สไตล์ภูเก็ตในซอยรมณีย์แล้วล่ะก็ แนะนำให้เดินเข้ามาเยี่ยมเยียนคาเฟ่กิ๊บเก๋สไตล์วินเทจแบบภูเก็ตที่ร้าน Dou Brew Coffee & Craft เลย เพราะที่นี่นั้นมีเครื่องดื่มหลากหลายให้เลือกในราคาที่ไม่แพงมากจนเกินไป ซึ่งเราสามารถสั่งได้ตั้งแต่กาแฟ ชาต่างๆ ขนม หรือแม้แต่เบียร์คราฟ โอ้ว แล้วตัวร้านคือกว้างขวา มีที่นั่งหลายมุมหลายจุดให้นั่งชิลหรือแฮงค์เอาท์ด้วย ดีย์ขนาดนี้ อยากให้มาลองจริงๆ
สำหรับเครื่องดื่มที่ได้สั่งนั้นมี Coffee Jelly (75 บาท) และ Coffee Tonic (75 บาท) พร้อมขนม Homemade Scone (85 บาท) ไว้กินกรุบกริบ ทั้งหมดนั้นคืออร่อยและดีมาก ที่ชอบที่สุดคงจะเป็น Coffee Jelly ที่มีพุดดิ้งอยู่ด้านใต้ของกาแฟ ทำให้ดูดสนุก เคี้ยวอร่อยแบบเข้ากันดีกับตัวกาแฟ อันนี้เลิฟ
อีกตัวที่ได้ลองคือ Coffee Tonic ที่นำเอา Tonic Water มาผสมกับกาแฟ ตัวนี้ค่อนข้างสดชื่น กินท่ามกลางอากาศร้อนๆคือดีย์ สุดท้ายกับตัวขนม Homemade Scone ที่ตัวแป้งนั้นนุ่มอร่อยมาก ถือเป็นสโคนที่ดีเริ่ด เหมาะกินคู่กับชา (แต่เรากินกับกาแฟ 55555)
โดยรวมทั้งหมดของการมากินที่ร้าน Dou Brew Coffee & Craft คือดีมากเลยทีเดียว ทั้งบรรยากาศของร้าน ความเป็นกันเองของบาริสต้าและเจ้าของร้าน รวมถึงรสชาติ และราคาที่ไม่แพง สรุปคือ .. เอาใจไปเลยเด้อ ฮ่าๆ
ที่พักในภูเก็ต
Le Meridien Phuket Beach Resort
Le Meridien Phuket Beach Resort เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทในภูเก็ตที่ก๊อตชอบมากเลยนะ ถึงแม้รีสอร์ทนี้จะมีอายุอานามมานานหลายปีแล้ว แต่สภาพโดยรวมของเค้าก็ยังดีอยู่มาก ไม่ได้รู้สึกเก่าคร่ำครึ แต่มีบรรยากาศของความคลาสสิคที่เหมือนอยู่คู่เกาะภูเก็ตมานานแล้วนั่นเอง อีกอย่างคือมีพื้นที่กว้างมาก สิ่งอำนวยความส่วนกลางก็เยอะ โดยเฉพาะสระว่ายน้ำที่มีมากถึง 4 สระ 10 บาร์และห้องอาหาร รวมถึงมีห้องพักมากถึง 470 ห้องเลยทีเดียว ถือเป็นรีสอร์ทที่โคตรใหญ่เลยแหละ
เรื่องทำเลที่ตั้งก็ถือว่าเทพอยู่ เพราะนอกจาก Le Meridien Phuket Beach Resort จะมีหาดกระรนน้อยที่ตั้งอยู่ติดรีสอร์ทจนแทบจะเป็นหาดส่วนตัวแล้ว การเดินไปยังที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ยังไปได้ง่าย อย่างหาดป่าตอง หาดกระรน รวมถึงแหละพรหมเทพด้วยแหละ
ตัวก๊อตเองได้จองห้องแบบ Deluxe Ocean View ที่ตัวห้องหันหน้าไปยังวิวทะเลของหาดกระรนน้อย โดยตัวห้องถือว่ามีขนาดค่อนข้างโอเคสำหรับสองคนที่ 40 ตารางเมตร คืออยู่แบบไม่อึดอัดเลยแหละ เรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกก็ครบครันตามฉบับรีสอร์ทระดับนี้ เตียงนอนสบาย เน็ตเร็วปู๊ดป๊าด และที่ชอบคือมีชานระเบียงที่เราสามารถไปนั่งเปื่อยๆ ดูวิวทะเลจากห้องตัวเองได้แบบชิลๆเลย ซึ่งทั้งหมดนี้ ก๊อตค่อนข้างประทับใจ คุ้มเงินคุ้มราคาเค้าแหละ
ราคาห้องพักเริ่มต้น 2,700 บาท/คืน ดูเรทและจอง Le Meridien Phuket Beach Resort สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย
Renaissance Phuket Resort & Spa
Renaissance Phuket Resort & Spa ถือเป็นหนึ่งรีสอร์ทท็อปฮิตระดับ 5 ดาวในภูเก็ตที่หลายคนชอบมาก ไม่ว่าจะเป็นห้องสวยๆ มีพูลวิลล่า อาหารเช้าบุฟเฟต์แบบจัดเต็ม รวมถึงหาดไม้ขาวที่เป็นแหล่งฟักไข่ของเต่ามะเฟือง ด้วยกิมมิคของสถานที่ Renaissance Phuket Resort & Spa และความดีงามของรีสอร์ทที่นี่ บอกเลยว่าไม่แปลกใจที่หลายคนอาจจะเอ่ยปากชมแหละ
Renaissance Phuket Resort & Spa จะมีห้องพักทั้งหมด 6 แบบ ตั้งแต่ Deluxe / R Deluxe / 1 BR Suite / 1 BR Pool Villa / 1 BR Oceanfront Pool Villa และสุดท้าย Duplex Oceanfront Villa ทั้งนี้ก๊อตก็ได้พักแบบ 1 Bed Room Pool Villa มีทั้งหมด 21 หลัง โดยห้องพักพูลวิลล่าแบบหนึ่งห้องนอน มีขนาดห้องประมาณ 120 ตร.ม. สามารถเข้าพักได้สองคน
จะบอกว่ามากับแฟนจะฟินมาก เพราะอะไรน่ะหรอ? เตียงใหญ่แบบคิงไซส์กลางห้อง อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ หรือจะห้องอาบน้ำกระจกใสก็มีหากใครอยากอาบแบบรวดเร็ว และขี้เกียจแช่ตัว สระว่ายน้ำส่วนตัวติดวิลล่า คือจะโรแมนติกมากเว้ย ถ้าจิบไวน์และเล่นน้ำในสระส่วนตัวกับแฟน คือฟินสุดในโลกแล้วววว
สำหรับของใช้ในห้องน้ำที่นี่ จะใช้ของแบรนด์ Tokyo Milk ทั้งหมด ซึ่งเป็นแบรนด์สกินแคร์จากอเมริกา และห้องน้ำที่นี่คือใหญ่โตมากกก แทบจะเป็น 1/3 ของบ้านเลยทีเดียว
เครื่องใช้อย่างอื่นที่จำเป็นคือครบครัน ทั้งทีวีขนาดใหญ่ แอร์ซึ่งเย็นมาก โต๊ะทำงานพร้อมโคมไฟ โซฟา ตู้เย็น หรือแม้แต่เครื่องทำกาแฟอัตโนมัติแบบแคปซูลของ Illy ก็มา ผลไม้ฟรี ขนมทานเล่นอย่างกล้วยฉาบทอดฟรี มินิบาร์เพียบพร้อม คือครบสุดในโลกนี้ ทั้งวันไม่ต้องออกไปไหนก็ได้ นอนพักผ่อนในนี้ก็โอเค บอกเลย
ราคาห้องพักเริ่มต้น 2,400 บาท/คืน ดูเรทและจอง Renaissance Phuket Resort & Spa สามารถคลิกลิงค์ด้านล่าง เพื่อดูเรทราคาและจองผ่าน OTA ที่ชอบได้เลย
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2025
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡