ใครมันจะไปคิดว่าจากภาพน้องห่านสีขาวมากมายที่กำลังเล่นน้ำ ลอยตุ๊บป่องกันอยู่ในทะเลสาบโดยมีวิวของต้าวฟูจิซังลูกโตซ้อนทับอยู่ด้านหลัง ภาพเดียวที่ก๊อตเห็นผ่านตามาเนิ่นนาน จะทำให้ตอนนี้ที่ก๊อตและเพื่อนกำลังขับรถมุ่งหน้าไปที่ ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) เพื่อตามล่าหาน้องห่านตัวเป็นๆ กันแบบนี้ และด้วยความบังเอิญที่ช่วงที่ก๊อตไปเที่ยวนั้นประจวบเหมาะกับการมาดู “Diamond Fuji” ปรากฏการณ์ที่รังสรรค์โดยธรรมชาติที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นและตกลงที่ปากปล่องภูเขาไฟฟูจิแบบพอดิบพอดีราวกับเตี๊ยมกันมาอีกด้วย นี่เลยบอกตัวเองว่าพลาดไม่ได้ เพราะใน 1 ปี ปรากฏการณ์นี้มีให้เราได้ดูแค่ 2 ช่วงเท่านั้น ก๊อตเลยรีบบอกเพื่อนให้ขับรถมาที่ ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) โดยไว ซึ่งพวกก๊อตจะมีแต้มบุญได้เห็น “Diamond Fuji” หรือเปล่านั้น ทุกคนลองมาลุ้นไปด้วยกันในรีวิวนี้เล้ย
รู้จักกับทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako)
ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) ตั้งอยู่ในจังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในหมู่ทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจิ และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCO อีกด้วย โดยอีก 4 ทะเลสาบที่เหลือ คือ ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi), ทะเลสาบไซโกะ (Lake Saiko), ทะเลสาบโชจิโกะ (Shojiko) และทะเลสาบโมโตสุโกะ (Motosuko) โดยทะเลสาบทั้ง 5 นั้น เกิดจากลาวาที่ไหลจากการปะทุของภูเขาไฟฟูจิในสมัยโบราณ ส่งผลให้เกิดเป็นทะเลสาบ 5 แห่งขึ้นมา โดยบริเวณ ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) นั้นเหมาะกับการทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการมาล่องเรือ ตกปลา เล่นสกีน้ำ และกีฬาทางน้ำ รวมไปถึงมาเพื่อชมทิวทัศน์ของต้าวภูเขาไฟฟูจิลูกโตๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่าบรรดาทะเลสาบที่เหลือ เพราะทะเลสาบที่นี่ตั้งอยู่ใกล้ฟูจิซังมากที่สุด นั่นเลยทำให้คนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวมักจะหอบของมานั่งแคมป์กันอยู่เสมอเลยล่ะ
นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) ที่นี่ยังติดหนึ่งใน 5 ทะเลสาบที่สูงที่สุดของญี่ปุ่น โดยมีความสูงพื้นผิวเฉลี่ย 980.5 เมตร (3,217 ฟุต) และยังเป็นทะเลสาบที่ตื้นที่สุดในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 แห่งของฟูจิอีกด้วย โดย ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) มีความลึกของน้ำสูงสุดเพียง 13.5 เมตร (44 ฟุต) เท่านั้น แต่ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย คือพื้นที่รอบๆ ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) มันจะมีจุดให้เราสามารถมาดูปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เลอค่าสุดๆ อย่าง “Diamond Fuji” ได้อีกด้วย
วิธีมาเที่ยวทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) ด้วยรถสาธารณะ
วิธีเดินทางมาเที่ยวที่ ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) เราสามารถเดินทางได้หลายวิธีเลย ซึ่งก๊อตจะยึดการเดินทางจากจุดเริ่มต้นที่โตเกียว (Tokyo) เป็นหลัก เพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวหรือคนไทยที่บินมาเที่ยวญี่ปุ่นโซนนี้ มักจะบินมาลงที่โตเกียว (Tokyo) กันก่อน จากนั้นค่อยเริ่มออกเที่ยวตามเมืองต่างๆ ซึ่งการเดินทางมาที่ ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) นั้น ก็สะดวกมากๆ เพราะเค้ามีรถบัสที่เราสามารถนั่งตรงมายังทะเลสาบแห่งนี้ได้เลย หรือถ้าใครถนัดขับรถแบบก๊อต ก็สามารถเช่าแล้วขับรถมาได้เล้ย
วิธีการเดินทางจากโตเกียว (Tokyo) <-> ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako)
- รถบัส (⭐️⭐️ แนะนำ): การเดินทางด้วยรถบัสเป็นวิธีที่ก๊อตแนะนำมากที่สุดสำหรับการไปเที่ยว ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) เนื่องจากนั่งรถต่อเดียวถึงจากสถานีชินจุกุ (Shinjuku Station) หรือสถานีโตเกียว (Tokyo Station) ใช้เวลาเดินทางไม่นานมากราวๆ 2.30 ชั่วโมง อีกทั้งยังมีรอบรถต่อวันเยอะมาก ราคาตั๋วเที่ยวเดียวเริ่มต้น 2,300 เยน (~560 บาท)
- เช่ารถขับ (⭐️⭐️แนะนำ): ใครที่เน้นสะดวก ไม่อยากเสียเวลารอขึ้นรถสาธารณะ วิธีที่ดีที่สุดในการเดินทางเลยคือการเช่ารถขับที่เราสามารถเช่ารถจากเมืองไหนในญี่ปุ่นก็ได้แล้วแต่เราจะสะดวก โดยข้อดีของการเช่ารถคือเราสามารถขับเที่ยวไปไหนก็ได้ตามใจชอบ ไม่ต้องมาเสียเวลารถสาธารณะ และไม่ต้องเดินเยอะอีกด้วย แต่ทั้งนี้ การเช่ารถก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายของทริปเราที่จะสูงขึ้นมากแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่ารถต่อวันเอย (เฉลี่ย 2,000 บาท/วัน) ค่าน้ำมัน และค่าทางด่วนที่แพงม๊ากกก แต่ถ้าใครชอบเที่ยวแบบโร้ดทริปแต่จ่ายได้ บอกเลยว่าเช่ารถเที่ยวนั้นคือสนุกที่สุดแล้ววว
ข้อมูลแน่นแล้ว
ไปดูไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) กับก๊อตเร้วว
ก่อนอื่นต้องเล่าย้อนกลับไปก่อนว่าในบรรดาทะเลสาบทั้ง 5 รอบภูเขาไฟฟูจินั้นก๊อตเคยไปเที่ยวรอบๆ มาแล้ว และโรดทริปรอบนี้ของก๊อตนั้นจะเที่ยวอยู่ในจังหวัดชิซึโอกะ (Shizuoka) ที่อยู่ไม่ไกลจาก ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) มากนัก โดยช่วงเวลาที่ก๊อตไปนั้นคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงที่มีปรากฏการณ์ ไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) พอดี ด้วยความที่แพลนเที่ยวก๊อตเปลี่ยนนิดหน่อย เพราะอยากมาดูไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) บวกกับตอนนั้นอีกไม่กี่ชั่วโมงดวงอาทิตย์ก็จะลาลับขอบฟ้าแล้ว นี่เลยบอกเพื่อนแล้วรีบขับรถมาดูกัน ถึงแม้ว่าเราจะมีเวลาอยู่เที่ยวรอบๆ ทะเลสาบไม่นานก็เถอะ แต่เลือดนักสู้ในตัวมันบอกว่า แกมาเถอะ ให้ตาสองดวงนี้ได้มาเห็น ไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) ของจริงสักครั้งหน่อย ซึ่งเอาจริงๆ หากใครจะมาตามเที่ยวทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) ล่ะก็ ก๊อตแนะนำว่าให้หาเวลามาเที่ยวแบบ One Day Trip ได้เลย เพราะนอกจากจะมาดูวิวไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) แล้ว ยังจะได้ไปตามเก็บที่เที่ยวอื่นๆ อีกด้วย
สำหรับ ไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) คือปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกลงบนปากปล่องภูเขาไฟฟูจิพอดี เกิดเป็นแสงแฉกๆ ที่เปล่งประกายอยู่บนยอดฟูจิราวกับประกายของเพชรเม็ดงามเลย ซึ่งบริเวณทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) นั้นเป็นอีกหนึ่งจุดที่สามารถมาดูวิวดังกล่าวได้ในช่วงพระอาทิตย์ที่กำลังตกแตะกับต้าวภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งปรากฏการณ์นี้เค้าจะมีให้เรามาตามดูแค่ 2 ช่วงต่อปี นั่นคือช่วงแรกในเดือนตุลาคม และอีกช่วงคือเดือนกุมภาพันธ์ที่เรามากันนี่เอง
โดยที่ทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) เค้าจะมีจุดให้เราได้มาดูไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) ได้ทั้งหมด 9 จุด ซึ่งแต่ละจุดจะมีเวลาบอกชัดเจนว่าพระอาทิตย์ขึ้นและลงในเวลาไหน โดยจุดที่ก๊อตมากันนี้คือ “Yamanakako Panorama-Dai” หรือเสิร์จพิกัด “35.40930° N, 138.91180° E” ในกูเกิ้ลแมพได้เลย บริเวณนี้จะอยู่บนเนินเขาลักษณะเป็นลานหญ้ากว้างๆ มีที่จอดรถให้ฟรี พอเราจอดรถกันเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาระทึกขวัญ เพราะดั้นไปถึงช่วงใกล้ค่ำ เราก็เลยต้องรีบวิ่งไปหาทำเลเหมาะๆ ในการตั้งกล้องเพื่อรอเก็บภาพดวงอาทิตย์ตกกัน ซึ่งระหว่างทางที่วิ่งผ่านมาไม่ต้องกลัวเหงาเลย เพราะมีช่างภาพ นักท่องเที่ยว คนญี่ปุ่นเค้ามาตั้งกล้องรอเก็บภาพกันอยู่เพียบ คนคือเยอะมากแก๊
และแล้ววินาทีที่ก๊อตรอคอยก็มาถึง แสงสุดท้ายของวันเคลื่อนตัวลงมาอยู่บริเวณปากปล่องภูเขาไฟราวกับจับวาง เกิดเป็นแสงสีทองที่เปล่งประกายอยู่บนยอดของต้าวฟูจิซัง เสมือนกับมีคนเอาเพชรเม็ดงามไปวางไว้บนยอดเขาอย่างไงอย่างงั้น แต่ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกันไหม ด้วยความที่ก๊อตไปมันเป็นวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ดวงอาทิตย์ที่ควรจะตั้งเทียบเท่ากับยอดฟูจิในรัศมีที่ตรงกันนั้น มันดูบิดเบี้ยวนิดหน่อย แสงวิบวับของเราที่ถ่ายได้มาเลยจะดูเอียงเล็กน้อย แต่นี่ก็ไม่อะไรมาก เพราะวิวตรงหน้ามันมิราเคิลสุดๆ แล้ว มันรู้สึกคอมพลีทมากที่ได้มาตามเก็บวิวนี้เข้ากรุเที่ยวของตัวเอง ยิ่งวันที่ก๊อตมาเป็นวันที่ฟ้าเปิด แกรมันสวยจึ้งไปไกลมาก ยอดฟูจิซังที่ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน เปล่งประกายแสงระยิบระยับช่างเป็นภาพที่สวยงามเกินจะเล่าผ่านตัวหนังสือ เพราะอยากให้ทุกคนได้มาเห็นของจริงด้วยตากันสักครั้ง
แต่บอกก่อนนะว่า ไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) นี้ หากดูด้วยตาเปล่านั้น จะไม่ได้เป็นแฉกๆ เป็นดาวกระจายหมือนในรูปที่เห็นในรีวิวนี้ เพราะในรูปนั้นถูกตั้งค่ารู้รับแสง (F-Stop) ของกล้องให้น้อยที่สุดจนเกิดเป็นแสงแฉกๆ แบบนี้นั่นเอง อย่างไรก็ตาม ของจริงที่เห็นตรงหน้าก็สวยสับเกินบรรยายจริงๆ มันเหมือนการมาตามล่าวิวภูเขาไฟฟูจิของก๊อตนั้น ช่างถูกที่ถูกเวลาและคอมพลีทสุดๆ มันเลอค่ามาก
ริมทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako)
ส่องวิว ไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) เสร็จกันแล้ว ก๊อตก็ไปตระเวนหามุมในภาพที่เราเห็นกันมา นั่นคือน้องหงส์สีขาวๆ ที่กำลังลอยคอเล่นน้ำอยู่ในทะเลสาบโดยมีฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งนี่ก็ขับรถวนรอบๆ ทะเลสาบเพื่อหากันเลย แต่อยากกรีดร้องเว่อร์เพราะหาไม่เจอ หรือเพราะว่ามันค่ำเกินไปก็ไม่รู้ได้ เพราะเท่าที่ก๊อตและเพื่อนขับตระเวนหาน้องหงส์นั้น เราไม่เจอน้องเลยสักกะจุด แต่นี่กลัวมาแล้วเสียเที่ยว เลยขอแวะข้างทางถ่ายรูปเล่นกับวิวฟูจิสักแมท
แต่ใจตอนนั้นแม้จะถ่ายรูปเสร็จแล้ว แต่เรายังอยากหาน้องหงส์ให้เจอเพราะอย่างน้อยก็จะได้ไม่รู้สึกว่ามาเสียเที่ยว นี่กับเพื่อนเลยไม่ยอมแพ้ขับรถไปกับต่อ โดยอาศัยจิ้มจากในกูเกิ้ลแมพเอาเลยว่า ภาพที่เราดูมามันควรจะอยู่โซนไหน จนสุดท้ายมาป๊ะที่จุดที่เค้าเขียนว่า “平野の浜” ในกูเกิ้ลแมพ ถ้าใครจะตามมาลองเสิร์ชจากชื่อที่บอกหรือ หรือพิมพ์พิกัด GPS “35.424618, 138.900904” ได้เลย ซึ่งตรงนี้จะเป็นเหมือนลานโล่งๆ เลียบลงสู่ทะเลสาบ โดยเราสามารถเอารถเข้าไปจอดที่ลานจอดรถใกล้ๆ แล้วเดินลงมาด้านล่างได้เลย ซึ่งตอนที่ก๊อตไปมีน้องหงส์หรือเป็ดไม่รู้ แต่ยังเป็นไซซ์เบบี้อยู่ 3 ตัวมาลอยตุ๊บป่องให้เราได้เซลฟี่ด้วยพอแก้ขัดเขินไปได้นิดหน่อย 55555
แต่ถึงแม้จะไม่เจอมุมที่ตามหา แต่วิวตรงนี้ก็เลอค่าด้วยวิวภูเขาไฟฟูจิที่เป็นพื้นหลังของทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) ส่วนตัวก๊อตว่าตรงนี้ก็ถ่ายรูปสวยเอาเรื่อง ใครขับรถมาเที่ยวเองอยากให้ลองมามุมนี้กันด้วย และแม้ว่าท้ายที่สุดแล้วก๊อตจะตามหามุมที่อยากมาไม่เจอจริงๆ แต่นี่ก็บอกกับตัวเองเอาไว้แล้วว่าถ้ามีโอกาสจะต้องกลับมาตามหามุมนั้นให้เจอให้ได้แน่นอน
หมดอายุ: 10-10-2024
หมดอายุ: 10-10-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
และนี่ก็คือเส้นทางมาตามล่าไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) ของก๊อตและเพื่อนในครั้งนี้ จะบอกว่าการที่ได้ตามล่าไอ้ต้าวฟูจิจากทะเลสาบอื่นๆ มาแล้วมันยังไม่รู้สึกว่าชีวิตคอมพลีทเท่ากับตอนมายืนมองวิว ไดมอนด์ฟูจิ (Diamond Fuji) ในทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) ครั้งนี้เลย เป็นการมาดูวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุดในชีวิตตั้งแต่ดูมาแล้ว ไม่เชื่อมาตามรอยได้เลย
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡