THE MET หรือ Metropolitan Museum of Art ถ้าถามว่าพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาคือที่ไหน? ต้องยกให้ THE MET ในนิวยอร์กเค้าเลย เพราะที่มีคอลเล็คชั่นชิ้นงานศิลปะกว่า 2 ล้านชิ้น ซึ่งบางชิ้นนั้นมีอายุมากกว่า 5,000 ปีเลยทีเดียว โดยคอลเล็คชั้นต่างๆ ที่อยู่ภายในนั้นเค้าได้รวบรวมผลงานมาจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นชิ้นงานจากยุโรป อียิปต์ อิสลาม เอเชีย แอฟริกา รวมถึงชิ้นงานอเมริกันตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ตลอดจนถึงยุคปัจจุบันที่ถูกจัดแสดงเอาไว้ เรียกได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะตัวท็อปที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้ ดังนั้นที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เหล่าสายอาร์ตทั้งหลายต้องมาตามเก็บเข้ากรุให้ได้ ว่าแล้วมาลองตามก๊อตเข้าไปส่องงานศิลป์ข้างในกันเลย
รู้จัก Metropolitan Museum of Art (THE MET)
THE MET นั้นสร้างขึ้นโดย จอห์น เจย์ (John Jay) ในปีค.ศ. 1870 ร่วมกับทนายความชาวอเมริกัน นักธุรกิจ นักการเงิน และเหล่าศิลปินที่หลงใหลในงานศิลปะแบบเดียวกัน โดยทั้งหมดตั้งใจว่าจะทำให้ THE MET เป็นมากกว่าพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงงานศิลปะ และตั้งใจที่จะเผยแพร่งานศิลปะและการศึกษาเกี่ยวกับศิลปะไปถึงคนอเมริกาให้เห็นถึงแนวคิดใหม่ๆ รวมถึงได้สัมผัสกับงานศิลปะที่มีอายุมาอย่างยาวนานอีกด้วย
และหากใครมาตามรอยเที่ยวที่นี่ จะเห็นว่าตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารศิลปะโกธิคแบบดั้งเดิม ด้านหน้าตึกและภายในโถงหลักเป็นศิลปะ Beaux-Arts สไตล์ฝรั่งเศส ที่นี่เลยถูกเปรียบเทียบว่าเป็นพระราชวังสาธารณะแห่งเมืองนิวยอร์กอีกด้วย โดยในปีค.ศ. 1872 THE MET ได้เปิดให้คนภายนอกได้เข้าชมเป็นครั้งแรก ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากผู้คนเป็นอย่างมาก จนในปัจจุบัน THE MET มีผู้เข้าชมติดท็อประดับโลกเลย
วิธีการเดินทางมาที่ Metropolitan Museum of Art (THE MET)
รถไฟไต้ดิน Subway : วิธีที่สะดวกที่สุดในการมาที่นี่คือรถไฟใต้ดิน ซึ่งสถานีรถไฟใต้ดินที่ใกล้กับ Metropolitan Museum of Art (THE MET) มากที่สุด คือ สาย 4, 5 หรือ 6 : ให้นั่งมาลงที่สถานี 86th Street Station แล้วเดินต่อไปอีกประมาณ 10 นาที
ค่าเข้าและการซื้อบัตร Metropolitan Museum of Art (THE MET)
หากใครแพลนมาเที่ยวที่ Metropolitan Museum of Art (THE MET) เราจะต้องซื้อตั๋วเข้ามาเด้อ ซึ่งราคาตั๋วสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป หากซื้อเองจากเว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ ราคาสำหรับผู้ใหญ่จะอยู่ที่ $30 (~1,040 บาท) ซึ่งส่วนตัวก๊อตเองนั้นซื้อบัตรมาจาก KLOOK ซึ่งนี่แนะนำมาก เพราะมันซื้อง่าย ราคาถูกกว่าซื้อหน้างาน และมาเป็น E-Ticket ที่แสกนเข้าหน้าทางเข้าได้เลย และถ้าใครอยากไปแบบมีไกด์นำทัวร์ ที่ KLOOK เค้ามีตั๋วแบบทัวร์พร้อมไกด์ให้เลือกซื้อด้วยนา
> ซื้อบัตร THE MET [ดูราคาและซื้อผ่าน Klook] / [ดูราคาและซื้อผ่าน KKday]
> ซื้อทัวร์ THE MET พร้อมไกด์พาชมด้านใน 3 ชั่วโมง [ดูราคาและซื้อผ่าน Klook]
> เช็คส่วนลด Klook ประจำเดือน คลิก / เช็คส่วนลด KKday ประจำเดือน คลิก
เริ่มเที่ยวใน Metropolitan Museum of Art (THE MET) กันเลย
เรามาเริ่มจากโซนศิลปะถาวรอย่างโซนภาพวาดและภาพพิมพ์ที่จัดแสดงเอาไว้อย่างยิ่งใหญ่ เริ่มจากภาพวาดกว่า 21,000 ภาพ, ภาพพิมพ์ 1.2 ล้านภาพ และหนังสือภาพประกอบ 12,000 เล่ม ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นทั้งในยุโรปและอเมริกา โดยชิ้นงานต่างๆ มีอายุตั้งแต่ประมาณ 1,400 ปีก่อนมาจนถึงปัจจุบัน ทั้งหมดนี้ทำให้ THE MET โดดเด่นในเรื่องงานศิลปะเกี่ยวกับภาพวาดและภาพพิมพ์มากที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
อีกโซนที่สำคัญ ควรค่าที่ต้องเข้ามาดู คือโซนศิลปะยุคอียิปต์ ที่มีรูปปั้นวัตถุโบราณจากอียิปต์กว่า 26,000 ชิ้น ตั้งแต่ยุค Paleolithic จนถึงสมัยโรมัน (ประมาณ 300,000 ปีก่อนคริสตกาล–ศตวรรษที่ 4) หนึ่งในนั้น มีรูปปั้นฮิปโปโปเตมัสเซรามิกดินควอตซ์สีน้ำเงินที่คนอียิปต์เชื่อว่าเป็นสัตว์ที่อันตรายที่สุดสำหรับผู้เดินทางในน้ำด้วย และที่เป็นไฮไลท์สุดของฝั่งอียิปต์เลยคือ วัดอียิปต์ที่สมบูรณ์มากที่สุดที่ถูกแสดงในโลกฝั่งตะวันตกกับ ‘The Temple of Dendur’ ที่ถูกสร้างขึ้นแถวแม่น้ำไนล์ และมีอายุมากกว่า 2,000 ปีเลย
และใครที่เป็นสายอาร์ตชอบงานศิลปะยุคโรมัน คุณมาถูกที่แล้วจ้า เพราะ THE MET มีโซนศิลปะกรีกและโรมัน ที่จัดแสดงชิ้นงานมากกว่า 30,000 ชิ้น ตั้งแต่ยุคหินใหม่ (ประมาณ 4500 ปีก่อนคริสตกาล) รวมไปถึงงานศิลปะจากหลากหลายวัฒนธรรม ที่เราจะได้เห็นผ่านผลงานอันหลากหลายตั้งแต่ อัญมณีแกะสลักขนาดเล็ก รูปปั้นขนาดใหญ่เกินจริง งาช้าง กระดูก เหล็ก ตะกั่ว อำพัน ไปจนถึงพวกประติมากรรมต่างๆ ที่ยิ่งใหญ่มีให้ดูกันจนตาลาย บอกเลย
เดินดูยุคโรมันกันจนฉ่ำใจแล้ว คนเอเชียอย่างชาวเรา จะพลาดโซนศิลปะเอเชียไม่ได้ บอกเลยว่าที่นี่เค้ารวบรวมไว้เยอะมากกว่า 35,000 ชิ้น นับตั้งแต่สหัสวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราชจนถึงศตวรรษที่ 21 เรียกได้ว่าคอลเล็คชั่นของเอเชียเหล่านี้เป็นเป็นการรวบรวมชิ้นงานศิลปะที่มากที่สุดและครอบคลุมมากที่สุดในโลก ซึ่งคอลเล็คชั่นบางอย่าง ตัวก๊อตเองก็เพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรกที่นี่เลย แต่นี่แอบเสียดายโซนเอเชียเป็นโซนที่คนเข้ามาดูน้อยมากเลย นี่เดินเพลินๆ เงียบๆ อยู่แค่ไม่กี่คนเอง แต่งานศิลปะ พวกวัตถุโบราณก็เป็นของที่ต่างก็หาดูได้ยากทั้งนั้นมันดีมากเลยเว้ย แนะนำให้เข้ามาดูกันเยอะๆ
ส่วนคอลเล็คชั่นอื่นๆ ใน THE MET ก็จะมีตั้งแต่พวกอาวุธและชุดเกราะโบราณ, เครื่องดนตรี, เครื่องแต่งกาย, ศิลปะแอฟริกา, ศิลปะอเมริกา, ศิลปะตะวันออก,ศิลปะอิสลาม, ศิลปะยุคกลาง-สมัยใหม่-ร่วมสมัย และอื่นๆ อีกมากมาย แถมเค้ายังมีนิทรรศการหมุนเวียนให้ได้ดูอยู่เรื่อยๆ อย่างตอนที่ก๊อตไปนั้น (กลางปี 2021) เป็นช่วงที่เค้าจัดนิทรรศการภาพวาดแนวเหนือจริง หรือ เซอร์เรียลลิซึม (Surrealism) กับเหล่าภาพวาดที่มันดูไม่สมเหตุสมผล โดยศิลปินเค้าได้นำเอาความไม่เข้ากันของสิ่งของ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่พบเจอ มาผสมผสานออกมาให้กลายเป็นสิ่งใหม่ที่ชวนให้เราได้ขบคิดและนึกตามผลงานเหล่านั้นไปด้วย โดยนิทรรศการหมุนเวียนเหล่านี้เค้าจัดสลับสับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ
สรุปแล้ว ก๊อตยกให้ THE MET เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ครบถ้วน และมีผลงานจัดแสดงอยู่หลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลย สายอาร์ตต้องมา อย่างก๊อตเองที่เรียนสายอาร์ตมา พอได้มายืนอยู่ท่ามกลางพิพิธภัณฑ์ระดับโลกแบบนี้ มันเหมือนดินแดนสวรรค์มาก นี่ไม่อยากกลับเลย 5555