ปกติผมจะคุ้นเคยแถวสาทรอยู่แล้ว เพราะผมทำงานที่ตึก Sathorn Square ตรง สาทร BTS ช่องนนทรี แต่ชีวิตของผมสาทรในทุกๆวันจะเป็นในรูปแบบของหนุ่มออฟฟิศสาทรซะมากกว่า แล้วถ้าเรามานอนนี่ซักหนึ่งคืนที่ W Bangkok สาทรตรงนี้ล่ะ มีไรทำมั้งน๊อ ..? และแล้วโอกาสก็มาถึง มาดูกันว่าหนึ่งคืนของผมที่นี่ ผมทำอะไรบ้าง ซึ่งใครอยากตามรอยบ้าง ก็ไม่ว่ากัน ถึงแม้จะเป็นในกรุงเทพก็เถอะ แหม่ ปล. ผมมากับแม่ด้วย ฮ่าๆ
วันแรก – กินข้าวกลางวัน The House on Sathorn / พัก W Bangkok / ชิลร้าน Not Just Another Cup
วันที่สอง – บุฟเฟต์ The Kitchen Table W Bangkok / ชิลร้าน Chu Chocolate Cafe & Bar
มื้อกลางวันที่ The Courtyard – The House on Sathorn
กำหนดการเช็คอินที่ W Bangkok นั้นคือบ่ายสามโมง ผมมาถึงที่โรงแรมประมาณเที่ยง งั้นเราหาไรกินเป็นข้าวเที่ยงเลยดีกว่า มองไปมองไป เอ๊ะ เรายังไม่เคยลองกินข้าวที่ The House on Sathorn เลย เคยลองแค่ The Afternoon Tea เท่านั้น เอาล่ะ เราไปที่นี่อีกรอบ ซึ่งที่นี่แหละคือคำตอบของมื้อเที่ยงล่ะ
หากใครอยากลอง Afternoon Tea ที่ The Courtyard – The House Sathorn อ่านได้เลย มีรีวิวแหละ
The Courtyard นั้นจะอยู่ส่วนกลางแจ้งของบ้านหลังนี้ ซึ่งถ้าอากาศดีก็น่านั่งชิลกินข้าว หรือจะ Afternoon Tea ก็ได้ แต่วันนี้อากาศค่อนข้างร้อน ผมเลยขอพี่เค้ามานั่งในส่วนของ The Dining Room แทน ซึ่งเป็นห้องแอร์ นั่งสบาย
แล้วอาหารที่ The Courtyard เป็นแนวไหนล่ะ? อาหารของที่นี่จะเป็นคอมฟอร์ทฟู๊ดซึ่งประยุกต์อาหารไทยหลากหลายเมนูที่เชฟเค้ารังสรรค์ขึ้นใหม่ด้วยวัตถุดิบชั้นเยี่ยมทั้งในไทยเองและต่างประเทศแหละครับ และที่นี่จะสั่งเป็น A la carte หรือจานเดี่ยวครับ เอาล่ะ
เริ่มแรกที่เค้าจะเสิร์ฟคือ ขนมปังพร้อมด้วยซอสตาเปนาด ซึ่งก็คือมะกอกบดผสมพริกแดง บัลซามิก และโรยด้วยออริกาโน – Sour Dough from Pine Apple Juice and Tapenade with Balsamic, Red Bell Pepper and Oregano (ฟรีเป็นออร์เดิฟ)
หลังจากนั้น จานที่ผมสั่งก็เริ่มทยอยมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ซีซ่าสลัดคลุกกุ้งย่างอันดามัน เบคอน ปลากระตัก – Little Caesar, Grilled Andaman Prawns, Bacon, Anchovy (350 บาท) ขนมปังปิ้งพร้อมมูสตับไก่และหัวหอมทอด – Chicken Liver Mousse, Pear Chutney, Grilled Sour Dough, Onions (350 บาท) ไก่ย่างรสต้มยำทั้งตัว – Char-grilled Free Range Baby Chicken, Tom Yum, Roasted Pineapple (600 บาท) และน้ำที่ผมสั่งคือ Iced Mocha (160 บาท) และ Lemon Lavender Lemonade (225 บาท)
ทั้งหมดนี้คือกินสองคนกับแม่ผมนะครับ อิ่มมั้ย อิ่มสิคร้าบบ .. อร่อยมากด้วย สรุปราคาของมื้อนี้คือ 1,685++ ครับผม
วันแรก เริ่มเช็คอินความชิคที่ W Bangkok
เกริ่นถึง W Bangkok กันก่อน โรงแรมที่นี่เป็นหนึ่ง W Hotel World Wide เครือ Starwood ซึ่งมีอยู่เกือบทุกเมืองใหญ่ทั่วโลก โดยในประเทศเองมีทั้งหมดสามที่ คือ กรุงเทพ สมุย และที่กำลังสร้างคือที่ภูเก็ต กำหนดการเปิดคือวันที่ 1 มกราคม 2561 ครับผม
คอนเซ็ปดีไซน์ของ W คือ Music / Design / Fashion / Fuel และในแต่ละโรงแรมดับเบิลยูนั้น ดีไซน์ของแต่ละที่ก็จะไม่เหมือนด้วย ขึ้นอยู่สถานที่หรือวัฒนธรรมคนท้องถิ่นนั้นๆ ที่ W Bangkok ก็เช่นเดียวกันครับ จะบอกว่า ความเป็นไทยสอดแทรกแบบรุนแรงมากกกกก อย่างไม่น่าเชื่อ! คือเดินเข้าไป ความเป็นไทยก็พุ่งเข้าหน้าแล้วอ่ะ จริงๆ
ดีไซน์โดยรวมของ W Bangkok ที่นี่จะออกสีม่วงชมพู และจะวิบวับแบบกลิตเตอร์มาก โดยได้รับแรงบันดาลใจจากวัดในไทยนั่นเอง แบบวิบๆวับๆตามผนังหรือหลังคาวัดอ่ะ นั่นแหละ ใช่เลย
พอเดินเข้าในส่วนของล็อบบี้ จะเจอผนังด้านหลังก็จะมีความเป็นกลิตเตอร์ซึ่งวาดลวดลายเป็นเสือและนกเหยี่ยว (ฟินิกซ์) วิบวับๆ นี่แหละ ไทยแน่นอน แต่ไทยฟีลแบบโมเดิร์นมากไง ฮ่า ๆๆ
พอเช็คอินเสร็จ ก็ถึงเวลาไปห้องพักซักที แต่เดี๋ยวก่อน.. เดินไปที่ลิฟท์ของโรงแรมที่นี่ เห้ยแม่ง ตกใจด้วยแสงสีของไฟหลายร้อยดวง มันคืออะไรน่ะหรอ?
ดีไซน์ในส่วนของที่รอลิฟท์ชั้น 1 ของที่นี่ ถูกประดับด้วยไฟรถตุ๊กๆ มากกว่า 800 ดวง
วันเดอร์ฟูลรูม
ไทยไทยแบบชิคชิคพอยัง? อยากเจอไทยเก๋ๆกว่านี้อีกป่ะ ขึ้นไปบนห้องพักดีกว่า โถ้วว.. ห้องพักที่ผมพักคือห้อง Wonderful แบบไม่สูบบุหรี่ เดินเข้ามา เจอนี่ก่อนเล้ยย นวมยักษ์วิ๊งๆ วางอยู่บนเตียง ซึ่งบอกเลยว่าไอเจ้านวมนี้ ถือเป็น Signature ที่ทุกคนต้องถ่ายรูป เมื่อมาพักที่ W Bangkok รู้ป่ะ อ้อ.. แล้วก็มีหมอนที่สวมปลอกเป็นกางเกงมวยไทย และสังเกตที่ผ้าปูเตียงดูนะว่าเป็นรูปอะไร เห้ยยยย ไทยแบบชิคมากกกกก! โอ้ยชอบบบบ
นวมนี่มีขายเป็นของที่ระลึกด้วยนะ หากใครอยากได้ก็ซื้อได้นะราคาคู่ละ 6,500 บาทเก๋ๆ
ยังไม่พอ..!
เค้ามีมาการงเสิร์ฟให้ในห้องพักฟรีเลย อร่อย ไม่หวานมากเกิน และอีกอันที่โครตประทับใจคือ Welcome Card ที่เขียนชื่อผมบนนั้นเลย หูยยยยยย .. อะไรจะขนาดน้านนน ยอมแล้ว
มาดูในส่วนของห้องน้ำที่นี่ ก็จะแบ่งเป็นโซนโดยมีประตูกั้นชัดเจน ทั้งโซนอ่างล้างหน้า รวมกับอ่างอาบน้ำ และแยกห้องไปอีกสองห้องเล็กคือห้องส้วมและห้องอาบน้ำอีก ทีเด็ดมันคืออะไรรู้ป่ะ กระจกทุกบานแม่งโปร่งแสง คือปิดแล้วก็ยังมองเห็นจากข้างนอกอ่ะ คือถ้ามากับเพื่อนหรือคนอื่นนี่ เห็นหมดนาจาาา .. แต่ถ้ามากับแฟนหรอ … เอ้อออ ชอบดิวะ มีความเซ็กซี่โรแมนติก
หลังจากเดินดูห้องแบบเจริญหูเจริญตาแล้ว ก็ทิ้งตัวลงนอนเลยครับ พักซักแปป เดี๋ยวจะพาไปกินร้านกาแฟดังในหมู่พวกฮิปสเตอร์ไทยแลนด์กัน
Not Just Another Cup ร้านฮิปในหมู่ฮิปสเตอร์
เดี๋ยวนี้พวกฮิปสเตอร์คอกาแฟ เค้าไม่ค่อยกินพวกสตาร์บัค หรือกาแฟเฟรนไชส์ทั่วไป เค้าต้องหาร้านเก๋ถ่ายรูปเพื่อความคูลดิ เออ บทความนี้มันต้องคูลไง นี่เลย ไม่ไกลจาก W Bangkok มาก ร้าน Not Just Another Cup สาทรซอย 10
มาถึงก็ประมาณห้าโมงกว่าแล้ว คนไม่เยอะเท่าไหร่ ซึ่งที่นี่เค้าก็จะมีบริการให้สองชั้น ใครอยากนั่งสบายๆ หรืออยากหาที่นั่งอ่านหนังสือ หรือทำงาน แนะนำขึ้นชั้นสองเลย มันมีห้องใหญ่คล้ายห้องประชุมด้วย ผมก็ขึ้นมานั่งชั้นสองเนี่ยแหละครับ
เปิดเมนูมา รายการอาหารค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ส่วนมากอาหารที่นี่จะเป็น Brunch ซะส่วนใหญ่ .. เดี๋ยว Brunch แม่มคือไรวะ ?
Brunch (บรั้นช์) คืออาหารมือสายๆ ที่กินรวบสองมื้อคือมื้อเช้าและกลางวัน คำมันผสมมาจาก Breakfast + Lunch แงะ
แล้ว Brunch มันคืออาหารหน้าตายังไง ต้องหน้าตาแบบไหนเรียก Brunch คือนี่ก็ไม่รู้ลึกขนาดนั้น แต่ฟีลลิ่งมันจะแบบ เอ้อ เสาร์ อาทิตย์ตื่นสายซักสิบโมง ออกมากินกาแฟพร้อมกินอาหารเช้าพร้อมอาหารกลางวันเลยทีเดียว ทีนีอาหารก็จะเป็นพวกโทส ขนมปัง มีไข่ดาว แฮม บลาๆ ก็ว่ากันไป เอ่อ.. เดี๋ยว.. เรื่องมันออกไกลและ เข้าเรื่องร้าน Not Just Another Cup ต่อสิ
สรุปแล้วผมสั่งนี่ Scarlet Toasts (280 บาท), Iced Americano (100 บาท) และ Lemon Iced Tea (120 บาท)
ไอ้ตัว Scarlet Toasts มันมีไรอ่ะ หลักๆมันก็ขนมปังไรย์ โปะด้วยคอทเทจชีส โรยด้วยสตอเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ องุ่น ถั่วพิสตาชิโอ และราดด้วยน้ำผึ้ง อร่อยมั้ยอ่ะ อืมมม ขนมปังแข็งสุด แต่คอทเทจชีสอร่อย สตอเบอร์รี่ลูกใหญ่ดี ส่วนอเมริกาโน และชาเลมอนน่ะ อร่อยเลย
เอาจริง สั่งไม่เยอะ เพราะอิ่มมากจากการกินมื้อกลางวันที่ The House on Sathorn สรุปค่าใช้จ่ายที่เสียไปกับ Not Just Another Cup คือ 588.50 บาท รวม Vat และ Service Charge .. กินเสร็จเดินกลับโรงแรมเลยแจ้ อิ่มมาก
ฟิต ฟิต ฟิต!
กลับมาจากโรงแรม อิ่มแปร้ ล้มตัวลงนอน .. พุงป่องไปอีกดิ แต่เราจะปล่อยให้ความอ้วนมันมาไม่ได้ ก็ต้องไปเบิร์นด้วยการว่ายน้ำสิครับ .. สรุป ฝนแม่งตก เออ อดว่าย เล่นฟิตเนสก็ได้วะ จริงๆติดโรงแรมเลยก็มีฟิตเนส เฟิรส์ท สาทรสแควร์ อยู่ เดินไปเล่นได้เลย แต่พักที่ W Bangkok ก็ต้องลองของโรงแรมสิ! ฟิตเนสที่นี่เค้ามีชื่อเรียกสั้นๆว่า FIT
ความไทยชิคของ FIT ที่นี่ รูปยักษ์ถือดัมเบล! หื้ม..
วันที่สอง! ลิ้มบุฟเฟต์ จิบกาแฟและลองบานาน่าวาฟเฟิล
ตื่นนอนแต่เช้าด้วยความสดใส เพราะอะไรอ่ะ ก็เพราะนอนสบายมาก เตียงนุ่มสุด! เอาล่ะ ท้องร้องแล้ว ถึงเวลาฟาดเรียบบุฟเฟต์อาหารเช้าที่ The Kitchen Table ชั้นสองของ W Bangkok นั่นเอง เดินเข้าไปแล้วคือจะบอกว่าอาหารมีให้เลือกเยอะมากกกกก มากเกินกว่าที่คิดน่ะ น้ำสมุนไพร กาแฟทุกแบบ อเมริกาโน มอคค่า เอเวรีติงคือได้หมด อาหารก็หลากหลายทั้งอาหารจีนอย่างติ่มซำ อาหารไทย หรืออย่างพวกไส้กรอก แฮม แซลมอลรมควัน ก๋วยเตี๋ยว ข้าวปั้นคือมี และโซนขนมปังก็มีให้เลือกเยอะมากเช่นกัน อะ .. ยาคูลท์ยังมีให้หยิบอ่ะ คิดดู ทุกย่างสั่งหรือหยิบได้หมดเลยจริงๆ ผมแทบจะบอกได้เลยว่า เยอะ และหลากหลายกว่าโรงแรมที่อื่นจริงๆ
หลังจากอิ่มเต็มกำลัง ก็ขอล้มตัวนอนที่ห้องอีกซักแปป และก็ถึงเวลาไปเบิร์นต่อด้วยการว่ายน้ำ หลังจากเมื่อวานฝนตก ไม่ได้ไปสัมผัสกับไง.. งื้ออ
สระว่ายน้ำที่นี่เค้าเรียกกันสั้นๆว่า WET! ผู้รู้ตัวจริง W Insider เค้าบอกว่า ถ้ามองมาจากด้านบนตึก ช่วงกำแพงขอบสระว่ายน้ำจะเป็นรูปดวงตาของยักษ์แหละและถ้าดำน้ำในสระลงไป จะมีเพลงให้ฟังด้วย..
สุดท้าย นี่คือแทบจะทำกิจกรรมเกือบหมดใน W Bangkok แล้วจริงๆ ยกเว้นก็แต่ทำสปาและเที่ยวบาร์ในโรงแรมนี่ และแล้วก็บ่ายโมงถึงเวลาเช็คเอาท์ โบกมือลา W Insider ที่คอยดูและอย่างดี ตลอดการพักที่นี่ ถึงเวลาออกและไปคูลกันต่อ ของการเที่ยวสาทรสองวันหนึ่งคืนยังไม่หมดหรอกน่า..
ฮิปกันต่อกับ Chu Chocolate Bar and Cafe Sathorn
เดินมาไม่ไกลมากจาก W Bangkok ก็มาต่อที่ Chu Chocolate Bar and Cafe ย่านสาทร สาขานี้คือสาขาที่สองแล้ว หลังจากประสบความสำเร็จจากสาขาแรกที่อยู่ตึก Exchange อโศก และนี่เป็นครั้งแรกที่ได้มากินสาขานี้แหละ คือกว้างมาก การตกแต่งจะเน้นโครงเหล็กสีดำตัดกับสีไม้ และมีโซนที่แต่งด้วยอิฐสีขาว เหมาะแก่การอ้อยอิ่ง สโลวไลฟ์ในวันเสาร์ อาทิตย์
หนึ่งเมนูที่ผมสั่งครั้งนี้คือ Banana Caramel Waffle (220 บาท), Iced Latte (110 บาท) และ Raspberry Lemonade (110 บาท) ที่สั่งมา ผมว่าวาฟเฟิลที่อร่อย ค่อนข้างนุ่ม เข้ากับวิปครีมได้อย่างดิบดี ส่วนกาแฟลาเต้ดีอยู่ แต่ Raspberry Lemonade อร่อยสดชื่น! เอาจริง แค่นี้ก็ถือเป็นของหวานแบบกรุบกริบๆ ได้แล้ว เพราะบุปเฟต์ตอนเช้า ยังย่อยไม่หมดเล้ย..
สัญลักษณ์สาทร? สะพานข้ามแยกช่องนนทรีไง
จบสุดท้ายก่อนลาจากสาทร ขาดไม่ได้เลยคือการมาแช๊ะ ถ่ายรูปสักนิดกับแลนด์มาร์คของสาทรที่นี่ สะพานข้ามแยกช่องนนทรี ด้วยดีไซน์ของสะพานเป็นโดมคล้ายคันธนู ซึ่งนับได้ว่าที่นี่เป็นอีกแห่งนึง ที่คนเวลามาเที่ยวกรุงเทพ .. ต้องถ่ายรูป
บางคนอาจจะไม่รู้ว่า สะพานแห่งนี้สร้างโดยเสี่ยเจริญ มูลค่า 100 ล้านบาท ยกให้กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นสะพานเชื่อมต่อย่านธุรกิจสาทรให้สมบูรณ์แบบ
สรุปชีวิตแบบชิคๆที่สาทร
W Bangkok – คงไม่ต้องบรรยายถึงความดีงามของตัว W Bangkok จริงๆโรงแรมที่นี่แทบจะเป็นโรงแรม 6 ดาวที่เพอร์เฟ็คแบบไม่มีข้อติ ทั้งเรื่องของการบริการ คุณภาพอาหาร และราคา .. อะ แน่นอน ทุกอย่างของโรงแรม ทุกกรั่นกรองและได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะ และวัฒนธรรมไทยอย่างเต็มที่ และรังสรรค์ใหม่ด้วยความคิดสร้างสรรค์ออกมาได้ไม่เหมือนใคร อย่างที่ผมได้รีวิวไป .. แนะนำเลยครับ จากใจ อยากให้ลองมาพักที่นี่ดู
ความชิครอบสาทร – จริงๆแล้วย่านสาทรไม่ได้มีแต่ออฟฟิศอย่างเดียว ร้านอาหาร ร้านกาแฟก็มีไม่น้อยเช่นกัน อย่าง Not Just Another Cup หรือ อย่าง Chu Chocolate Cafe & Bar ที่รีวิวไปแล้ว ยังมีอย่างร้าน Rocket Coffeebar ยอดนิยม และตึก Empire Tower ที่เค้าเปิดโซนพลาซ่าชื่อว่า EM SPACE ที่มีร้านอาหารค่อนข้างเยอะอย่าง Muteiki by Mugendi / กับข้าวกับปลา / เสวย และ Tops Market หรืออยากจะเดินไปอีกนิดก็สีลม ร้านอาหารตรึม
ค่าใช้จ่ายสองวันหนึ่งคืนคร่าวๆ ที่สาทร
1. W Bangkok : Wonderful Room รวมอาหารเช้าที่ The Kitchen Table สำหรับ 2 ท่าน – 8,500 บาท (ราคาแล้วแต่ซีซั่น)
2. The Courtyard : The House on Sathorn by W Bangkok – 1,971.50 บาท
3. Not Just Another Cup – 588.0 บาท
4. Chu Chocolate Bar & Cafe – 484 บาท
รวมค่าใช้จ่ายประมาณ 10,544 บาท
หมายเหตุ – ทางผมได้ Complimentary จาก W Bangkok ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วนของห้องพักและอาหารที่ The Courtyard
เป็นไงมั้ง กับหนึ่งคืนที่สาทร หากใครจะตามรอยก็ตามได้ เพราะถึงแม้จะเป็นกรุงเทพ มันก็ไม่เกี่ยวว่าจะเที่ยวไม่ได้ใช่มั้ยเอ่ย .. อะ บาย แล้วเจอกันครับ 😀
4 comments
ขอบคุณครับ ร้านน่ากินทั้งนั้น เดี๋ยวไปลอง Not Just Another Cup บ้างครับ ^^
จริงๆมีอีกหลายร้านเลยยยยยย แต่เวลามีน้อย ฮ่าๆ
ชอบรีวิวมาก มีโอกาสจะตามครับ ให้กำลังใจ ทำอีกๆ จะติดตามครับ
ขอบคุณนะครับ ^^