โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) หากใครเป็นแฟนดิสนีย์ตัวยง และกำลังมีแพลนมาเที่ยวญี่ปุ่น ก๊อตไม่อยากให้พลาดเลยกับ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ที่ถือเป็นสวนสนุกดิสนีย์แห่งแรกที่สร้างขึ้นนอกอเมริกา และยังได้ชื่อว่าเป็นสวนสนุกดิสนีย์แลนด์นอกอเมริกาที่มีคนมาเที่ยวมากที่สุดเลย
รีวิวนี้ก๊อตจะพาทุกคนไปเที่ยวและเล่นเครื่องเล่นใน โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) กันแบบจัดเต็ม ตั้งแต่เครื่องเล่นเบาๆ ที่เหมาะกับน้องๆ หนูๆ และไต่ระดับไปจนถึงเครื่องเล่นมันส์ๆที่เล่นแต่ละทีต้องมีกรีดร้องกันจนคอแทบแตกผ่านเครื่องเล่นทั้ง 7 โซนใน โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ว่าแล้วมาตามก๊อตไปผจญภัยไปในโลกดิสนีย์แลนด์ด้วยกันเลย จะสนุกเบอร์ไหน เลื่อนอ่านกันเร้วว
- รีวิวเต็ม โตเกียว (Tokyo) 28 ที่เที่ยว
- รีวิวเต็ม Tokyo Disneyland แบบละเอียด
- รีวิวเต็ม Tokyo Disneysea แบบละเอียด
- รีวิวเต็ม Harry Potter – Warner Bros. Studio Tour Tokyo แบบละเอียด
- โรงแรมและที่พักแนะนำในโตเกียว (Tokyo)
- ส่วนลด Klook / ส่วนลด Agoda
สารบัญรีวิวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
เนื่องจากรีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) หน้านี้คือละเอียดยิบมาก ก๊อตเลยแบ่งซอยย่อยออกเป็นหัวข้อเพื่อที่ทุกคนจะได้อ่านง่ายขึ้น ใครอยากอ่านอันไหน สามารถจิมด้านล่างได้เลยนะครับ จะได้ไม่ต้องลากเมาส์ให้เมื่อยตุ้มเสียเวลา 😆
- รู้จักโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
- เลือกไปไหนดีระหว่าง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) หรือ โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ?
- ความรู้ปราสาทดิสนีย์แลนด์ทั่วโลก
- ซื้อบัตรโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ที่ไหนดี?
- เที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) พักที่ไหนดี?
- ทริคและการวางแผนเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) อย่างไรให้เที่ยวได้จัดเต็มได้มากที่สุด
- เครื่องเล่นห้ามพลาดของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
- โซน Fantasyland
- โซน Tomorrowland
- โซน Westernland
- โซน Critter Country
- โซน Adventureland
- ขบวนพาเหรดดิสนีย์
- Disney Light the Night
- สรุปการมาเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
รู้จักโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
ความพิเศษของ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) เป็นสวนสนุกดิสนีย์แห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นนอกสหรัฐอเมริกา โดยมีรูปแบบเดียวกับ Magic Kingdom Park ที่ฟลอริดา และ Disneyland Park ในแคลิฟอร์เนีย แน่นอนว่าใครที่อยากสัมผัสกลิ่นอายความคลาสสิคของดิสนีย์แลนด์ คือเราแทบไม่ต้องที่อเมริกาเลย
สำหรับสวนสนุกดิสนีย์ที่โตเกียวนั้น ไม่ได้มีแต่ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) อย่างเดียว แต่เค้ายังมีอีกปาร์คอย่าง โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) สวนสนุกดิสนีย์ที่มาในธีมการสำรวจทะเลแห่งเดียวในโลกตั้งอยู่อีกด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ทั้งสองสวนสนุกนี้บริษัท Walt Disney ไม่ได้เป็นเจ้าของและไม่ได้เป็นคนบริหาร แต่เป็นของบริษัทญี่ปุ่นอย่างบริษัท ‘The Oriental Land’ ที่ซื้อลิขสิทธิ์มาและเป็นเจ้าของรวมถึงได้สิทธิ์ในการบริหารสวนสนุกและโรงแรมแบรนด์ดิสนีย์ทั้งหมดเลย
ใครที่มาเที่ยว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) นั้น ก๊อตจะบอกว่าที่นี่เค้ามีเครื่องเล่นพิเศษ 4 เครื่องเล่นที่มีเฉพาะที่สวนสนุกแห่งนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น Enchanted Tale of Beauty and the Beast, Pooh’s Hunny Hunt, Monsters, Inc. Ride & Go Seek และ The Happy Ride with Baymax โดยที่ห้ามพลาดเลยคือเครื่องเล่น Enchanted Tale of Beauty and the Beast เครื่องเล่นใหม่ที่เค้าพึ่งเปิดล่าสุดของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) โที่อิงมาจากหนังดิสนีย์สุดคลาสสิค Beauty and the Beast หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อภาษาไทย ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ ซึ่งนี่ยกให้เค้าเป็นหนึ่งในเครื่องเล่นที่สนุกที่สุดของสวนสนุกแห่งนี้แล้ว
เลือกไปไหนดีระหว่าง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) หรือ โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ?
สำหรับใครมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วยังลังเลว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี ระหว่าง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) หรือ โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ก๊อตมีรายละเอียดของทั้งสองสถานที่มาให้อ่านเพื่อเป็นการตัดสินใจตามด้านล่างนี้เลย
โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland): ถือว่าเป็นสวนสนุกดิสนีย์แลนด์แห่งแรกที่สร้างขึ้นนอกสหรัฐอเมริกา ที่คล้ายกันกับ Magic Kingdom Park ที่รัฐฟลอริดา และ Disneyland Parkในแคลิฟอร์เนีย ใครที่อยากไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ฟีลปราสาทคลาสสิคที่อิงกับคาแรคเตอร์ของเหล่าเจ้าหญิงและเหล่ามิกกี้เมาส์ ให้เราเลือกฝั่ง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) เลย และด้วยความที่ฝั่งดิสนีย์แลนด์นั้นอิงตัวละครคลาสสิก เครื่องเล่นที่นี่เลยออกแนวเด็กน้อยเยอะกว่า แต่ใช่ว่าเครื่องเล่นหวาดเสียวหรือมันส์ๆจะไม่มี คือมีแต่ว่าจะมีไม่มากเท่าฝั่งโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) นั่นเอง
โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea): เป็นสวนสนุกที่เค้าเปิดแยกออกมาจากดิสนีย์แลนด์ โดยเค้าตั้งใจสร้างให้มันมีความแตกต่างกัน และมีความแปลกใหม่ออกไปภายใต้ธีมการสำรวจทางทะเล ซึ่งความพิเศษของฝั่งนี้จะมีแค่ที่โตเกียวที่เดียวในโลก โดยเครื่องเล่นในโตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) จะออกไปทางแนวแอดเวนเจอร์ที่อิงจากภาพยนตร์ของดิสนีย์ที่มีเครื่องเล่นมันส์ๆ และหวาดเสียวเยอะกว่า โดยเค้าจำลองปาร์คเป็นท่าเรือในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยแยกเป็นโซนต่างๆ ที่เกี่ยวกับทะเลเอาไว้อีกถึง 6 โซนเลย นอกจากนี้เค้ายังมีมาสคอตประจำสวนสนุกอย่าง ‘Stella Lou’ กระต่ายน้อยสีม่วงอ่อน ซึ่งเป็นเพื่อนของดัฟฟี่ ตุ๊กตาหมีที่มินนี่เมาส์เย็บให้กับมิกกี้เมาส์อีกด้วย
⚡️ สรุป โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) หรือ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)?
ใครที่ไม่เคยเที่ยวดิสนีย์แลนด์มาก่อนและอยากสัมผัสความเป็นออริจินอลของดิสนีย์แลนด์ หรือใครที่มากันเป็นครอบครัว และมีเจ้าตัวน้อยมาด้วยล่ะก็ ก๊อตแนะนำว่าให้เลือกเข้าฝั่ง โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) เพราะมีปราสาทเจ้าหญิงที่ถือเป็นไอคอนของดิสนีย์แลนด์ และเราจะยังได้เจอเหล่าบรรดาเจ้าหญิงดิสนีย์อีกด้วย แต่ให้รู้ว่าเครื่องเล่นส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เครื่องเล่นเด็ก และเครื่องเล่นที่เน้นแสงสีเสียงและเอฟเฟ็คมากกว่าความหวาดเสียวนะเออ
แต่สำหรับใครที่ชอบการผจญภัย ฟีลพาเด็กโตมาด้วย ก๊อตแนะนำว่าให้ลองไปเล่นที่ โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) เพราะเครื่องเล่นจะออกแนวตื่นเต้นและระทึกเอาเรื่องมากกว่า ปราสาทดิสนีย์ไม่มีแต่แทนที่ด้วยภูเขาไฟลูกโต ฮ่าๆ ใครที่เคยเที่ยวดิสนีย์แลนด์มาหลายที่แล้ว แนะนำให้เปลี่ยนบรรยากาศมาเล่นที่ โตเกียว ดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) ดูได้เลย
ซื้อบัตรโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ที่ไหนดี?
- ซื้อผ่าน OTAs อย่าง Klook หรือ KKday (⭐️ แนะนำ): วิธีที่ก๊อตว่าสะดวกสบาย ซื้อง่าย และราคาดี คือการซื้อบัตรผ่าน Klook หรือ KKdays นั่นเอง โดยเว็บ OTAs เองจะเปิดขายบัตรล่วงหน้าแค่ 2 เดือนเท่ากันกับเว็บโตเกียวดิสนีย์แลนด์ โดยทั้งสองเว็บเค้ามีภาษาไทย และตั๋วที่เค้าออกให้จะเป็น QR Code ที่เราสามารถไปสแกนที่หน้าประตูแล้วเข้าสวนสนุกได้เลย สะดวกเว่อร์
🎫 เช็คราคาและซื้อบัตรโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
หมดอายุ: 10-10-2024
ส่วนลด 1,000 บาท
หมดอายุ: 12-10-2024
เที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) พักที่ไหนดี?
สำหรับคนที่จริงจังในการมาเที่ยว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) แล้วอยากให้ครบเครื่องมากที่สุดนั้น ยังไงก็ต้องพักโรงแรมและรีสอร์ทใน โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต (Tokyo Disner Resort) เค้าแล้วแหละ โดยด้านในนั้นมันมีโรงแรมมากมายให้ได้เลือกหลายระดับและราคาโดยตกแต่งไปตามธีมต่างๆ ของดิสนีย์เอง แถมบางอันยังมาพร้อมแพ็กเกจพิเศษที่เราจะได้สิทธิเข้าดูในส่วนต่างๆ ที่คนพักข้างนอกไม่สามารถเข้ามาดูได้ ซึ่งใครที่ชอบความเป็นดิสนีย์ควรค่าแก่การเข้าพักอย่างมาก
สำหรับข้อดีของการเข้าพักใน โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต (Tokyo Disner Resort) นั้น หากเราซื้อบัตรเข้าสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ไม่ทัน หรือตั๋วหน้าเว็บไซต์หมดแล้ว หากเราเป็นแขกของดิสนีย์รีสอร์ต ยังไงเราก็ได้รับสิทธิพิเศษในการการันตีได้เข้าไปในสวนสนุกแน่นอนแม้ว่าวันนั้นจะเป็นวันพีคที่คนมาเที่ยวเยอะมากที่สุด หรือแม้บัตรเค้าจะขายหมดแล้วก็ตาม โดยเราสามารถซื้อบัตรสวนสนุกได้ที่รีสอร์ทที่เราพักได้เลย นอกจากนี้ทางรีสอร์ทเองยังมีรถ Free Shuttle Bus สำหรับรับ-ส่ง ที่สวนสนุกอีกด้วย และที่เริ่ดคือเราสามารถเข้าปาร์คได้ก่อนคนทั่วไป 15 นาทีเลยทีเดียว ถือดีมากสำหรับคนที่อยากเก็บเครื่องเล่นให้หมด คือรีบเข้าก่อน-เล่นก่อนนั่นเอง ทั้งหมดนี้ว่าสะดวกสบายและดีมากเลยแหละ
โรงแรมธีมดิสนีส์ใน Tokyo Disney Resort
- Tokyo DisneySea Hotel MiraCosta [⭐️ แนะนำ] ราคาเริ่มต้น ¥59,500 (~15,000 บาท) ต่อคืน เป็นโรงแรมที่แพงที่สุด ดีที่สุด และตั้งอยู่ใน Tokyo DisneySea เลย เรียกได้ว่านอนกันในปาร์คของจริงเลยทีเดียว จองผ่าน Agoda / จองผ่าน Klook
- Tokyo Disneyland Hotel [⭐️ แนะนำ] ราคาเริ่มต้น ¥49,500 (~12,500 บาท) ต่อคืน เป็นโรงแรมที่ตั้งอยู่ติดกับ Tokyo Disneyland Park มีห้องธีม Beauty and the Beast, Alice in Wonderland และ Cinderella จองผ่าน Expedia / จองผ่าน Klook
- Disney Ambassador Hotel ราคาเริ่มต้น ¥39,000 (~9,800 บาท) ต่อคืน โรงแรมดิสนีย์สไตล์อเมริกันแบบ Art Deco ไม่ได้ตั้งอยู่ติดกับปาร์คทั้ง Disneyland และ DisneySea แต่สามารถนั่งรถ Shuttle Bus ได้ฟรี จองผ่าน Expedia / จองผ่าน Klook
- Tokyo Disney Resort Toy Story Hotel ราคาเริ่มต้น ¥35,000 (~8,700 บาท) ต่อคืน เป็นโรงแรมธีม Toy Story โดยห้องพักทุกห้องนั้นได้แรงบันดาลใจมากจากห้องนอนของ Andy ในอนิเมชั่นเลย จองผ่าน Expedia
- Tokyo Disney Celebration Hotel ราคาเริ่มต้น ¥19,500 (~4,900 บาท) ต่อคืน เป็นโรงแรมที่ถูกที่สุดในตระกูลดิสนีย์ และยังตั้งอยู่ไกลจากปาร์คประมาณ 20 นาที โดยเราสามารถนั่งรถบัสฟรีของดิสนีย์ได้ ส่วนตัวไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ จองผ่าน Expedia / จองผ่าน Klook
โรงแรมอื่นๆ แบบทางการของ Tokyo Disneyland
สำหรับคนที่อยากหาโรงแรมที่ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนสนุกที่เรายังเดินทางสะดวกด้วยรถโมโนเรลของดิสนีย์เอง แต่ไม่อยากจ่ายแพงเกินเบอร์ในราคาดิสนีย์ เรายังมี 5 ตัวเลือกโรงแรมแนะนำตามนี้ ที่เค้ายังเป็น ‘โรงแรมแบบทางการของ Tokyo Disneyland’ ที่เราจะยังได้รับสิทธิประโยชน์บางอย่างเสมือนพักในโรงแรมดิสนีย์ เช่น การการันตีตั๋วเข้าสวนสนุก แต่จะยกเว้นสิทธิบางอย่างเช่น การเข้าปาร์คก่อน 15 นาที
- Hilton Tokyo Bay (8.6/10) ราคาเริ่มต้น 6,500 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook - Hotel Okura Tokyo Bay (8.6/10) ราคาเริ่มต้น 4,800 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook - Sheraton Grande Tokyo Bay Hotel (8.6/10) ราคาเริ่มต้น 6,800 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Marriott Bonvoy / Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook - Grand Nikko Tokyo Bay Maihama (8.9/10) ราคาเริ่มต้น 4,600 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook - Tokyo Bay Maihama Hotel (8.6/10) ราคาเริ่มต้น 4,900 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook - Tokyo Bay Maihama Hotel First Resort (8.1/10) ราคาเริ่มต้น 3,300 บาท ต่อคืน
จองผ่าน Agoda / Booking.com / Expedia / Traveloka / Klook
ทริคและการวางแผนเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) อย่างไรให้เที่ยวได้จัดเต็มได้มากที่สุด
- ซื้อตั๋วล่วงหน้าจากออนไลน์ ตามที่ก๊อตบอกไปข้างบน เพราะถ้าใครเลือกมาซื้อหน้างานนั้น มีความเสี่ยงที่จะไม่มีบัตรมาก หรือถ้ามีบัตร เราก็ต้องต่อคิวซื้อนานมากเช่นกัน
- ใครจะมาเที่ยวที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ให้มาวันธรรมดา อย่าได้มาวันเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดเลย เพราะขนาดก๊อตไปวันธรรมดาคนยังเยอะมากกก
- สำหรับใครที่อยากอยู่เที่ยวแบบเต็มวัน เพื่อไม่ให้รู้สึกเหนื่อยนั้น แนะนำให้นอนในโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต (Tokyo Disney Resort) เพราะจะช่วยประหยัดเวลาในการเข้ามายังปาร์คต่างๆ ได้เยอะเลย หรือถ้าเล่นแล้วเหนื่อยก็สามารถเดินกลับไปพักก่อน แล้วค่อยออกมาใหม่ตอนไหนก็ได้ ตอนดึกๆ อยากออกมาดูเค้าจุดพลุค่อยเดินออกมาก็ยังได้ พออยู่ดึกก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางกลับ เพราะสามารถเดินกลับไปที่ที่พักหรือนั่ง Shuttle Bus ได้สบาย
- อย่าลืมโหลดแอป Tokyo Disney Resort App เพราะแอปเดียวช่วยชีวิตเราตอนที่อยู่สวนสนุกได้เยอะมาก
- สามารถดูเเผนที่สวนสนุกทั้งหมดได้ผ่านเเอป โดยในแอปมันจะบอกหมดเลยว่าเราอยู่ตรงไหนของสวนสนุก รวมถึงเครื่องเล่นแต่ละอย่างนั้นใช้เวลาต่อแถวเข้าเล่นกี่นาที
- ใช้ดูแผนที่เครื่องเล่น และโซนต่างๆ ในสวนสนุกได้ รวมถึงรู้ว่าเครื่องเล่นไหนปิดบ้าง
- ใช้ดูว่าเวลาโชว์พาเหรด หรือพลุว่าเค้าแสดงกี่โมง
- ใช้ในการซื้อบัตรเบ่ง ‘Disney Premier Access’ ในแอป ซึ่งบัตรเบ่งมันใช้เล่นไม่ได้ทุกเครื่อง มีเฉพาะเครื่องเล่นฮิต แนะนำให้ซื้อเลยหากเครื่องเล่นที่เราอยากเล่นคิวเยอะ เพราะเค้าขายจำนวนจำกัด ไม่ได้ขายแบบอัลลิมิต อย่างช่วงที่ก๊อตไปของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) จะมีเฉพาะเครื่องเล่น Enchanted Tale of Beauty and the Beast เท่านั้นน้า
- ให้มาถึงสวนสนุกในเวลาเช้าที่สุดเท่าที่จะมาได้ ยิ่งใครมาตั้งแต่ก่อนสวนสนุกเปิดเลยจะดีมาก เพราะเครื่องเล่นฮิตคนจะยังต่อแถวไม่เยอะ และแน่นอนว่าเราจะมีเวลามากพอในการรอเล่นเครื่องเล่นต่างๆ ได้มากขึ้นเยอะม๊าก
- ใครที่เตรียมตัวมาเล่น Enchanted Tale of Beauty and the Beast ก๊อตแนะนำว่ามาถึงสวนสนุกแล้วให้พุ่งตัวไปเล่นอันนี้ก่อนเลยตั้งแต่สวนสนุกเปิด เพราะเค้าเป็นเครื่องเล่นใหม่ล่าสุด และครองแชมป์เครื่องเล่นฮิตมากที่สุดประจำสวนสนุกไปแล้ว แน่นอนว่าใช้เวลาต่อคิวเพื่อเข้าเล่นนานมาก ล่าสุดที่ก๊อตไปนั้นต่อไป 140 นาทีเลย ซึ่งถ้าเล่นเครื่องเล่นนี้เสร็จแล้ว ก๊อตแนะนำว่าให้เช็คในแอปว่าเครื่องเล่นไหนคนต่อคิวน้อย แล้วให้เลือกพุ่งไปเล่นอันนั้นต่อได้เลย ไม่จำเป็นต้องเล่นเก็บแต่ละโซนเรียงกันไป
- ใครมาแล้วอยากซื้อของที่ระลึกกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ถังป๊อบคอร์น จาน ชามต่างๆ ให้รีบซื้อเลย เพราะของพวกนี้เค้าจะผลิตขายออกมาตามเทศกาล หมดแล้วหมดเลย
- ทุกอย่างในโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) สามารถใช้บัตรเครดิต หรือ Travel Card รูดได้หมด
เครื่องเล่นห้ามพลาดของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
สำหรับเครื่องเล่นห้ามพลาดใน โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) นั้น จริงๆ อันนี้มันแล้วแต่ความชอบของแต่ละคนแหละ แต่ถ้าให้ก๊อตเลือกมาล่ะก็ ก๊อตจะขอแยกออกเป็น 3 แบบตามที่ก๊อตชอบแล้วกัน โดยทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัว อันนี้ที่เริ่ดมากนั้นจะมี 3 ต่อท้ายชื่อไว้ด้วย หากใครที่ไม่รู้จะเริ่มเล่นเครื่องไหน อย่างไร ลองเลือกดูๆ ตามสายตัวเองได้เล้ย
เหตุผลที่ห้ามพลาด | เครื่องเล่นห้ามพลาดในโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) |
สายรถไฟเหาะ สนุก-หวาดเสียว | – Big Thunder Mountain Railroad ⭐️ – Space Mountain ⭐️ – Splash Mountain ⭐️⭐️ |
เครื่องเล่นตื่นตาตื่นใจ เน้นประสบการณ์ | – Pirates of the Caribbean ⭐️ – Haunted Mansion ⭐️⭐️⭐️ |
มีที่เดียวในโลก เฉพาะที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) | – Enchanted Tale of Beauty and the Beast ⭐️⭐️⭐️ – Pooh’s Hunny Hunt – Monsters, Inc. Ride & Go Seek ⭐️ – The Happy Ride with Baymax |
⚡️ บอกก่อนว่ารีวิวนี้ เราจะไล่เขียนเป็นโซนๆ ไปนะ แต่ในชีวิตจริงตอนที่เราอยู่ในสวนสนุกนั้น ไม่จำเป็นต้องไล่เก็บแต่ละโซนขนาดนั้น อันไหนที่เป็นเครื่องเล่นฮิตและเป็นเครื่องเล่นที่เราอยากเล่น หากเห็นเวลาต่อคิวในแอปดิสนีย์มันลงต่ำมาก นี่แนะนำให้ไปรีบต่อเครื่องเล่นนั้นไปเลย ทั้งนี้ ในการรีวิวเครื่องเล่นแต่ละอันของก๊อต นี่จะปูเนื้อเรื่องไว้ให้ เพราะถ้าเรารู้เนื้อเรื่องหรือซีรีส์ที่เค้าดัดแปลงมาทำเครื่องเล่นแล้วล่ะก็ บอกเลยว่าเราจะเล่นได้สนุกขึ้นเยอะมาก!
มาเริ่มเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) กั้นน
โซน Fantasyland
เริ่มโซนแรกกันที่ Fantasyland โซนที่จะพาเราหลุดเข้าไปในโลกของเทพนิยายดิสนีย์ โดยเครื่องเล่นส่วนใหญ่ในโซนนี้จะเน้นไปที่เครื่องเล่นสำหรับเด็ก ไม่เน้นหวาดเสียวแต่อย่างใด ซึ่งที่ญี่ปุ่นนี้เค้าจะมีเครื่องเล่นเฉพาะที่มีอยู่แค่ที่นี่ที่เดียว คือ เครื่องเล่น Pooh’s Hunny Hunt จากเรื่อง The Many Adventures of Winnie the Pooh ฉบับคลาสสิกในปี 1977 ที่จะพาเราไปผจญภัยในโลกของต้าวหมีพูห์เสื้อแดงพุงพลุ้ย ที่จะไปตามหาน้ำผึ้งแสนหวาน ซึ่งเป็นของโปรดของน้องหมีพูห์อีกด้วย
นอกจากนี้ในโซน Fantasyland ยังมีเครื่องเล่นอื่นๆ อีกมากมาย แต่ถ้าให้นี่แนะนำเลย คือ Alice’s Tea Party เครื่องเล่นที่อิงมาจากการ์ตูนเรื่อง Alice in Wonderland ที่เราจะได้ร่วมผจญภัยไปกับอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ บนแก้วน้ำชายักษ์ขนาด 4 ที่นั่ง ที่เครื่องเล่นจะพาเราหมุนวนไปมา ราวกับเรากำลังอยู่ในฉากปาร์ตี้น้ำชาของแมดแฮทเทอร์เลย หรือถ้าใครเป็นแฟนๆ การ์ตูนเรื่องสโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด แนะนำให้มาเล่นเครื่องเล่น Snow White’s Adventures เราจะได้ร่วมเดินทางไปผจญภัยกับสโนว์และเหล่าคนแคระที่สมจริงด้วยแสง สี เสียงแบบจัดเต็ม หรือจะปิดท้ายด้วยเครื่องเล่น Peter Pan’s Flight จากการ์ตูน Peter Pan ที่เราจะได้นั่งเรือล่องไปบนท้องฟ้าร่วมกับปีเตอร์แพน เหมือนในหนังลย 55555 อันนี้ชอบมาก จากใจแฟน Peter Pan คือสมจริงเว่อร์ เรียกได้ว่าโซน Fantasyland เป็นอีกหนึ่งโซนที่มีเครื่องเล่นเหมาะกับเด็กๆ อยู่เยอะมาก ใครพาเด็กๆ มาเที่ยวครั้งแรกก๊อตแนะนำโซนนี้เลยครับ
Enchanted Tale of Beauty and the Beast ⭐️⭐️⭐️
สำหรับเครื่องเล่นในโซน Fantasyland ที่ก๊อตแนะนำว่าควรค่าแก่การมาเล่นมากที่สุดในสามโลกก็คือ Enchanted Tale of Beauty and the Beast ที่เป็นเครื่องเล่นที่ ณ ขณะนี้มีอยู่ที่โตเกียวที่เดียวในโลก และยังเป็นเครื่องเล่นใหม่ที่พึ่งเปิดล่าสุดเมื่อปี 2020 ของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) อีกด้วย ทั้งปราสาทเอย เนื้อเรื่องตลอดเส้นทางตั้งแต่ประตูทางเข้าจนเล่นเครื่องเล่นจบนั้น ทั้งหมดอิงมาจากหนังดิสนีย์สุดคลาสสิค Beauty and the Beast หรือชื่อภาษาไทย ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ (ปี 1991) นั่นเอง
⚡️ ขอเตือนก่อนว่าเครื่องเล่นนี้ฮิตมากกกกก ด้วยความที่เป็นเครื่องเล่นใหม่ล่าสุดและเป็นเครื่องเล่นที่ทุกคนต่างบอกว่าโคตรดี ใครที่จะมาเล่น Enchanted Tale of Beauty and the Beast นั้น ก๊อตแนะนำว่าให้เรามาถึงสวนสนุกตั้งแต่ประตูเปิดตอนเช้า แล้วรีบวิ่งมาเล่นอันนี้ก่อน แต่ถ้าใครไม่อยากเข้าแถวรอ เราสามารถซื้อบัตรเบ่งในแอปของ Tokyo Disneyland ได้เลย โดยราคาตอนที่ก๊อตดู อยู่ราวๆ ราคาจะอยู่ที่ ใบละ 500 บาท/ครั้ง/คน ซึ่งเราสามารถกดซื้อแล้วจ่ายเงินในแอปแล้วเลือกเวลาเข้าเล่น จากนั้นเราสามารถไปเล่นตามเวลาที่เราจองได้เลย ส่วนใครที่ไม่มีบัตรเบ่งนั้น เตรียมตัวต่อแถวเข้าคิวแบบยาวนานได้ อย่างก๊อตเองใช้เวลาต่อแถว 140 นาทีตอนช่วงเย็นๆ ซึ่งเป็นการต่อแถวสวนสนุกที่ยาวนานมากที่สุดในชีวิตแล้ว ฮ่าๆ จะซื้อบัตรเบ่งก็ไม่ได้ เพราะบัตรเบ่งก็มีจำนวนจำกัดต่อวันเช่นกัน ดังนั้น วางแผนกันดีๆ เด้อ
ความสมจริงและความอลังการตั้งแต่แรกเห็นเลยก็คือตัวปราสาทเจ้าชายอสูรสุดที่มีความสูงถึง 33 เมตรเลย โดยแถวที่เราต่อเพื่อเล่นเครื่องเล่นนั้น เราจะได้เดินผ่านห้องต่างๆ ในปราสาท ได้เห็นทั้งตัวละครเยอะมาก โดยเฉพาะ Lumiere (คุณเชิงเทียน) และ Cogsworth (คุณนาฬิกา) ที่เคลื่อนไหวได้แบบเหมือนจริงมากจนนี่ตกใจเลย เอาดีๆ 55555
สำหรับเครื่องเล่นของ Enchanted Tale of Beauty and the Beast คือ เราจะได้เข้าไปนั่งอยู่ในถ้วยน้ำชายักษ์ ที่ถ้าใครจำได้ น้องเค้าคือถ้วยน้ำชาที่หน้าตาคล้ายกับสองแม่ลูกที่ถูกสาปให้เป็นกาน้ำชา และถ้วยน้ำชานั่นเอง จากนั้นตัวถ้วยน้ำชาที่เรานั่งอยู่นั้น ก็จะพาเราหมุนเคลื่อนตัวเข้าไปสู่เส้นทางที่เราจะได้เห็นถึงเรื่องราวของตัวละครต่างๆ ใน Beauty and the Beast (1991) ตั้งแต่ฉากเต้นรำของเจ้าชาย ฉากโดนสาป ฉากนั่งกินอาหารบนโต๊ะตัวใหญ่ ไปจนถึงฉากกลายร่างจากอสูรกลับคืนมาเป็นเจ้าชาย ท่ามกลางแอนิเมชัน เอฟเฟ็กต์จริง การฉายภาพ และการจัดแสง สี เสียง ที่ประสานไปกับเสียงดนตรีได้อย่างอลังการและปลื้มปริ่มมากกก
ความรู้สึกระหว่างนั่งอยู่ในถ้วยน้ำชาที่เราได้เข้าไปในโลกของ ‘โฉมงามกับเจ้าชายอสูร’ นั้น คือเพลินและสนุกมาก เราจะได้รู้เรื่องราวทั้งหมดของเรื่องนี้ภายใน 7 นาทีกว่าๆ และคุ้มมมากสำหรับการต่อคิว 140 นาที ฟีลเหมือนเราได้ตามเบลล์เข้าไปผจญภัยภายในปราสาทที่ต้องมนตร์แห่งนี้ ได้เห็นสิ่งที่เบลล์ทำต่ออสูรตัวร้าย จนสามารถพาเค้ากลับมาเป็นเจ้าชายผู้ทรงสง่าได้ เรื่องของฉาก พร๊อพ การเคลื่อนไหวต่างๆ ของหุ่นต่างๆ คือโคตรสมจริงราวกับนี่ได้หลุดเข้ามาในโลกของ Beauty and the Beast (1991) คือประทับใจมากและยกให้เป็นเครื่องเล่นที่ดีที่สุดของโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) สำหรับก๊อตเลย
Haunted Mansion ⭐️⭐️⭐️
มาต่อกันที่ Haunted Mansion เครื่องเล่นที่ซ่อนตัวอยู่ในคฤหาสน์สไตล์โกธิคที่ข้างในเต็มไปด้วยเหล่าผีสางมากมาย กว่า 999 ตัว เป็นเครื่องเล่นฟีลบ้านผีสิงที่ไม่ใช่บ้านผีสิงที่จะมีเหล่าผีสางโผล่มาหลอกหลอนตุ้งแช่ แต่เหมือนเราจะได้เข้าไปอยู่ในเรื่องราวผ่านฉากและเอฟเฟ็คต่างๆ ในบ้านหลอนนี้ที่ครั้งหนึ่ง ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ได้ตายทั้งหมดและถูกฝังไว้ที่บ้านแห่งนี้ ซึ่งต่อมาก็กลายเป็นเหล่าผีที่สิงอยู่ในบ้านหลังนี้นั่นเอง
สำหรับเครื่องเล่น Haunted Mansion ที่โตเกียวนั้น เค้าจะมีช่วงปกติธรรมดาและช่วงเทศกาลสำคัญที่เค้าจะคอยเปลี่ยนธีมไปตามเทศกาลด้วย อย่างช่วงสิ้นปีของทุกปีตอนกลางเดือนกันยายนถึงต้นเดือนมกราคมนั้น เครื่องเล่นนี้จะถูกเนรมิตโดยการรวบเอาเทศกาลฮาโลวีนและคริสต์มาสออกมาเป็นธีม ‘Haunted Mansion Holiday Nightmare’ จากเรื่อง Tim Burton’s The Nightmare Before Christmas มาทดแทน ซึ่งนี่บอกเลยว่าโคตรดี เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่สนุกแบบเพลินๆ (ไม่ตุ้งแช่) และเป็นเครื่องเล่นที่ก๊อตแนะนำเลยว่าห้ามพลาดจริงๆ
โดยเราจะได้ขึ้นไปนั่งบนยานที่เค้าจะพาเราทะยานเข้าไปสำรวจภายในคฤหาสน์สุดหลอน ท่ามกลางห้องต่างๆ ที่ถูกเซตเอาไว้ไม่ต่างจากฉากในหนัง ทั้งห้องสมุดที่มีเจ้าซีโร่ (Zero) สุนัขผีของแจ็คนอนอยู่ข้างๆ ต้นคริสต์มาสโดยมีหนังสือภายในห้องหมุนไปมาอยู่ตลอดเวลาชวนให้ได้ขนลุกซู่ซ่ากันเบาๆ ตั้งแต่เริ่ม หรือจะเป็นห้องดนตรีที่มีตัวการ์ตูนแซลลี่ (Sally) นั่งไขว่ห้างบนโซฟาจ้องมองไปยังแวมไพร์เท็ดที้ (Vampire Teddy) ที่กำลังเล่นเปียโนอยู่ข้างๆ
นอกจากนี้เรายังจะได้ผ่านห้อง ‘13 Days of Christmas’ ที่จะมีมาดามลีโอตาที่โผล่มาให้เราเห็นแค่หัวอยู่ในลูกแก้วทรงกลม ซึ่งปากของมาดามนั้นก็กำลังร่ายมนตร์ท่องคาถาอยู่ไม่หยุดกันเลยแหละ โดยตลอดสองเส้นทางที่ผ่านมานั้นจะมีเหล่าผีต่างๆ ล่องลอยไปมารวมถึงมีข้าวของที่ขยับเขยื้อนได้เพิ่มความสมจริงยิ่งขึ้นไปอีก บอกเลยว่าเป็นอีกเครื่องเล่นที่สนุก ระทึกและชวนตื่นเต้นกับเหล่าผีสางได้ตั้งแต่เข้าไปจนถึงออกมากันเลย เครื่องเล่นนี้คือห้ามพลาดเด็ดขาดเลยแหละ
โซน Tomorrowland
สำหรับ โซน Tomorrowland เป็นโซนแห่งโลกอนาคตตามสไตล์ของดิสนีย์ ที่เราจะได้โลดแล่นไปในจินตนาการและการผจญภัยในโลกยุคอวกาศแห่งอนาคต ที่เปรียบเหมือนพิมพ์เขียวแห่งอนาคตของดิสนีย์ ซึ่งโซนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจาก Jules Verne นักเขียนชาวฝรั่งเศส ผู้บุกเบิกการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์และไซไฟสมัยแรกๆ โดยเครื่องเล่นภายในโซนนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีเครื่องเล่นคลาสสิกอย่าง Star Tours และ Toy Story รวมถึงรถไฟผาดโผนฟีลโลกอนาคตประจำโซนอย่าง Space Mountain เป็นต้น ใครที่เป็นคอหนังไซไฟ ห้ามพลาดโซนนี้เลย
Star Tours-The Adventures Continue
หนึ่งในเครื่องเล่นที่ก๊อตแนะนำใน โซน Tomorrowland เลยคือเจ้า Star Tours-The Adventures Continue เครื่องเล่นที่ก๊อตไปตามเล่นมาแล้วทั้งในปารีส และอเมริกา โดยเราจะได้หลุดเข้าไปในจักรวาลของ Star Wars โดยเครื่องเล่นเค้าจำลองมาจากท่าเรืออวกาศสไตล์ Tomorrowland ที่จะพาเราไปทัวร์เดินทางข้ามกาแล็กซีที่สุดแสนจะปั่นป่วน เมื่อหุ่นดรอยด์ C-3PO และ R2-D2 พยายามส่งตัวสายลับกลับไปยัง Rebel Alliance ให้ได้อย่างปลอดภัย ความสนุกมันอยู่ที่เราจะได้ขึ้นไปนั่งในยานขนาดใหญ่ โดยมีหุ่นยนต์ดรอยด์ทั้งสองมาคอยบังคับยานให้ และเพิ่มความสมจริงด้วยการสวมแว่นตา 3D และเอฟเฟ็คต่างๆ มาประกอบเข้าด้วยกัน
ความสนุกของเครื่องเล่นนี้คือจังหวะที่เรานั่งอยู่บนยานเพื่อเข้าไปผจญภัยในโลกของ Star Wars ตัวยานของเค้ามันจะมีความสั่น และโยกไปมา ฟีลเหมือนยานแล่นด้วยความเร็วสูงและหลบสิ่งกีดขวางสิ่งต่างๆ ถึงแม้ว่าห้องเครื่องเล่นมันจะอยู่เฉยๆ แต่ด้วยเอฟเฟ็คต่างๆ แล้ว ราวกับตัวเราได้หลุดเข้าไปนั่งอยู่ในยานที่กำลังบินจริงๆ เล้ย และได้ร่วมมือกันในการช่วยพาตัวสายลับกลับมา ซึ่งมันจะต้องมีฉากที่คอยปกป้องสายลับ สาดปืนเลเซอร์ใส่กันไปมา จังหวะนี้แหละที่โคตรมัน เพราะที่นั่งบนยานก็จะเคลื่อนตัว โยกเยกไปมาตามการหลบหลีก ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ใครยังไม่เคยเล่นมาก่อนที่ประเทศอื่น ก๊อตแนะนำว่าควรมาลองเล่นเลย ยิ่งใครที่เป็นสาวก Star Wars ยิ่งพลาดไม่ได้
นอกจากความสนุกที่เราได้ไปร่วมช่วยสายลับไปกับหุ่นดรอยด์ C-3PO และ R2-D2 แล้ว ก๊อตจะบอกว่า หากเราเข้าไปเล่นเครื่องเล่น Star Tours-The Adventures Continue นั้น มีโอกาสน้อยมากที่เราจะเจอเนื้อเรื่องซ้ำกัน เพราะเค้าสุ่มสุ่มเนื่อเรื่องจากหลายๆ ส่วน ที่รวมเข้ากันแล้วจะมีเนื่อเรื่องที่แตกต่างกันทั้งหมดกว่า 54 แบบเล้ย อันนี้โคตรล้ำ และเจ๋งมาก
Space Mountain ⭐️
มาต่อกันที่เครื่องเล่น Space Mountain เครื่องเล่นแห่งโลกอนาคตที่มีความไซไฟมากขึ้นไปอี๊ก ภายนอกของเครื่องเล่นเราจะเห็นเป็นโดมภูเขาขนาดใหญ่ ซึ่งภายในจำลองให้เป็นเหมือนสถานีอวกาศ โดยมีรถไฟเหาะที่เปรียบเหมือนกับยานอวกาศสุดล้ำที่จะพาเราทะยานไปท่องโลกอวกาศและเหล่ากาแล็กซีต่างๆ นั่นเอง
หมดอายุ: 10-10-2024
หมดอายุ: 10-10-2024
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
ใครที่เป็นสายสนุกหวาดเสียวเที่ยวรถไฟเหาะก็ต้องมาเล่นกับเครื่องเล่นนี้ที่เราจะได้พวยพุ่งไปในอวกาศพร้อมกับดาวระยิบระยับรอบตัว โดยมีบางช่วงที่รถไฟเหาะมันขับทะลุกาแล็กซีไปนั้น อันนี้คือชอบมาก ถือเป็นรถไฟเหาะที่ทำได้ดี มีความตื่นเต้นในความมืด แต่ไม่ค่อยหวาดเสียวเพราะเราไม่ค่อยได้เห็นอะไรเพราะมันมืดนั่นเอง 555555
ส่วนตัวก๊อตยกให้ Space Mountain เป็นรถไฟเหาะที่ก๊อตชอบมากที่สุดในสวนสนุกเลย ใครที่จะมาตามรอยคือต้องรีบเลย เพราะทางดิสนีย์เค้าประกาศออกมาแล้วว่า เครื่องเล่น Space Mountain เวอร์ชันที่ก๊อตมาเล่นนี้ เค้ากำลังจะปิดปรับปรุง ซึ่งเค้าจะเปิดให้เล่นอีกครั้งในเวอร์ชั่นใหม่ในปี 2570 เลย
Buzz Lightyear’s Space Ranger Spin
เผื่อใครยังติดใจโลกอวกาศ ให้มานั่งยานท่องโลกอวกาศกันต่อกับเครื่องเล่น Buzz Lightyear’s Space Ranger Spin เครื่องเล่นฟีลเล่นเกมแบบอินเตอร์แอคทีฟที่มาจาก Toy Story ของ Disney/Pixar โดยเอาตัว Buzz Lightyear of Star Command มาเป็นตัวหลักของเครื่องเล่นนี้ที่เราจะต้องไปปราบเจ้า ‘ZURG’ จักรพรรดิอวกาศผู้ชั่วร้าย และหยุดแผนการที่กำลังพยายามขโมยแบตเตอรี่ที่เรียกว่า ‘คริสตัลลิกฟิวชันเซลล์’ ที่ใช้ในการขับเคลื่อนยานอวกาศของ ‘Little Green Men’
โดยเราจะได้ขึ้นไปนั่งในยานอวกาศ ‘Omnimover’ และเล่นเกมทำคะแนนโดยการเอาปืนพกเลเซอร์มายิงลำแสงปิ้วๆ ใส่วายร้ายต่างๆ เพื่อเก็บคะแนนสะสมไปเรื่อยๆ แข่งกันนั่นเอง ซึ่งเครื่องเล่นนี้ถือเป็นเครื่องเล่นคลาสสิกที่มีอยู่ในดิสนีย์แลนด์ทั่วโลก ยกเว้นฮ่องกงที่ตอนนี้เอาออกไปแล้ว ใครที่ไปดิสนีย์แลนด์มาหลายที่แล้วก็อาจจะข้ามอันนี้ไปเลยก็ได้นะ เพราะมันแทบจะไม่ต่างกันเลยแหละ ข้ามได้ข้ามมม 5555555
แต่ถ้าใครที่ชื่นชอบ Toy Story หรือ Buzz Lightyear หรือใครที่ไม่เคยมาเที่ยวดิสนีย์แลนด์มาก่อน ก็ต้องต้องมาลองเล่นกันซักครั้งแล้วแหละ โดยเฉพาะเด็กๆ ที่น่าจะชอบเพราะมันฟีลเหมือนเล่นเกมยิงเลเซอร์ รวมถึงได้เห็นหุ่นยนต์ และ Buzz Lightyear แบบใกล้ชิด ฟีลลุดเข้าไปในโลกของ Toy Story งี้เล้ย
The Happy Ride with Baymax
มาโซนนี้แล้ว นี่อยากจะแนะนำเครื่องเล่นสำหรับเด็กๆ ให้อีกอันหนึ่งคือเครื่องเล่นฟีลรถ]kd The Happy Ride with Baymax กับธีมอนิเมชั่น Big Hero 6 ที่เอาคาแรคเตอร์เบย์แม็กซ์ หุ่นยนต์ปฐมพยาบาลสีขาวตัวอ้วนปุ๊กปิ๊กกว่า 22 ตัว มาเป็นคนขับรถที่จลากเราเหวี่ยงไปมา ใครที่เห็นแล้วอาจหวาดเสียวกลัวว่าเจ้าเบย์แม็กซ์จะพาเราขับไปชนคนอื่นเหมือนรถบั้มบ้านเราไหมนั้น แกรไม่ต้องกลัวพี่เค้ากันนะ เห็นตัวใหญ่แต่หัวใจมุ้งมิ้งมาก เพราะเบย์แม็กซ์ นางจะลากวนไปมาด้วยความเร็วไม่แรงมากนัก ถือเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะกับเด็กๆ มาก
Monsters, Inc. Ride & Go Seek ⭐️
เครื่องเล่นสุดท้ายที่ก๊อตอยากแนะนำในโซน Tomorrowland คือ Monsters, Inc. Ride & Go Seek เครื่องเล่นที่เค้าอิงมาจากอนิเมชีานเรื่อง Monsters, Inc. ที่เค้าจำลองอาคารโรงงาน Monsters, Inc โดยเราจะได้เข้าไปสำรวจและร่วมทำภารกิจกับเจมส์และไมค์ ที่เราต้องคอยสอดส่องและจับตา และเอาไฟฉายของเราไปส่องสัญลักษณ์ตัว ‘M’ ในนั้นนั่นเอง แน่นอนว่าใครตาดี สาดไฟฉายไปส่องตัวเอ็มเยอะ คะแนนเราก็จะเยอะตามไปด้วยนั่นเอง ซึ่งโดยรวมแล้ว เครื่องเล่นมันเหมือนกับ Buzz Lightyear’s Space Ranger Spin เลยเว้ย ต่างกันแค่เปลี่ยนธีมหนัง และปืนเลเซอร์ที่ใช้ยิงมาเป็นไฟฉายแทนนั่นแหละ 5555555555
เอาจริง ถ้าใครที่เคยเล่น Buzz Lightyear’s Space Ranger Spin มาหลายรอบแล้วล่ะก็ นี่บอกเลยว่ามาเล่น Monsters, Inc. Ride & Go Seek แทนเหอะ เพราะอันนี้มันสดใหม่กว่า แถมฉากต่างๆ ก็อลังการและหลายสิ่งมากกว่าเยอะ ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นอะไรซักอย่างมาเลยล่ะก็ ถ้าเวลาเหลือและใช้เวลาต่อคิวไม่มากก็เก็บไปทั้งสองอันเลยก็ได้ หรือถ้าเลือกได้อันเดียว
โซน Westernland
โซน Westernland เป็นโซนที่มาในดินแดนผจญภัยอเมริกันในยุคศตวรรษที่ 19 ที่มีทั้งคาวบอยและเหล่าผู้บุกเบิกต่างๆ ของอเมริกานั่นเอง โดยโซนนี้นั้นจะเหมือนกับโซน Frontierland ที่ดิสนีย์แลนด์ประเทศอื่น แต่ที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) นั้นต้องเปลี่ยนชื่อ เพราะไม่สามารถใช้ชื่อโซน Frontierland ได้ เนื่องด้วยความต่างในเรื่องของภาษาและวัฒนธรรมที่ญี่ปุ่นไม่สามารถใช้คำว่า ‘Frontier’ ที่มีความหมายว่า ‘ชายแดน’ ได้ ดังนั้น ที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) เค้าเลยตั้งชื่อชื่อโซนนี้ว่า โซน Westernland แทนเพื่อสื่อถึงภาพรวมของอเมริกายุคคาวบอยแทนนั่นเอง
โดยเครื่องเล่นในโซนนี้ เน้นไปที่การผจญภัยไปกับเครื่องเล่นต่างๆ ที่เหมือนหลุดเข้าไปในยุคคาวบอยของอเมริกาตามธีมของโซนนี้ โดยมีไฮไลท์อย่างเจ้าตัว ‘Big Thunder Mountain Railroad’ รถไฟเหาะที่พาเราวาร์ปหลุดไปในช่วงยุคขุดทองของอเมริกา รวมถึงเครื่องอื่นๆ อย่าง Mark Twain Riverboat ที่เค้าจะพาเราล่องไปตามแม่น้ำ Rivers of America โดยใช้เวลาล่องเรืออยู่ประมาณ 12 นาที ซึ่งเราจะได้เห็นวิวโดยรอบของโซน Westernland จากมุมฝั่งของแม่น้ำเข้ามาภายใน ใครที่อยากนั่งเพลินๆ หรือจะเป็นเครื่องเล่น Tom Sawyer Island Rafts ที่เราจะได้ขึ้นไปบนแพแล้วมีคนมาพายพาล่องไปตามแม่น้ำ ผ่านถ้ำ สะพาน ปราสาท ที่อยู่สองฝั่งแม่น้ำอีกด้วย และสำหรับใครชอบเครื่องเล่นในร่มเค้าก็มี Country Bear Theater โรงละครในร่มที่จุคนได้ถึง 306 คน เอาไว้ด้วยนะ โดยมีการแสดงละครปรับเปลี่ยนไปตามเทศกาลต่างๆ เรียกได้ว่าโซน Westernland เป็นอีกหนึ่งโซนที่ก๊อตคิดว่ามันเหมาะกับคนที่หลงใหลในกลิ่นอายความเป็นคาวบอยของอเมริกาและชอบเล่นเครื่องเล่นแบบแอดเวนเจอร์สุดๆ
Big Thunder Mountain Railroad ⭐️
หนึ่งในเครื่องเล่นที่ต้องมาเล่นในโซนนี้กับ Big Thunder Mountain Railroad รถไฟเหาะสุดมันส์ ที่ถูกออกแบบให้ดูเหมือนที่ราบสูงพร้อมภูเขาขนาดมหึมาเสมือนเราอยู่ในยุคขุดทอง ที่เราจะต้องนั่งรถไฟเหาะพาเราไปตีลังกากันภายในอุโมงค์เหมืองด้านใน
โดยที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) นั้น Big Thunder Mountain Railroad มีธีมเครื่องเล่นคล้ายกับที่ดิสนีย์แลนด์ที่ฟลอริด้า ซึ่งสร้างจากเรื่องราวของเหมืองทองทางตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกาในช่วงปลายทศวรรษ 1800 ซึ่งมันมีเรื่องเล่าว่า ที่ภูเขา Big Thunder Mountain นั้นเป็นภูเขาศักสิทธิ์ของชาวบ้าน อีกทั้งยังเป็นภูเขาต้องคำสาป แต่ด้วยความว่าที่นี่เป็นขุมทรัพย์ขุดทองขนาดใหญ่ เค้าก็เลยมีการสร้างเหมืองขุดทองขึ้นซึ่งถือเป็นการลบหลู่ และสิ่งศักสิทธิ์ก็ได้ลงโทษด้วยภัยธรรมชาติร้ายแรงจนเมืองเหมืองทองแห่งนี้ถูกทิ้งร้างค้างเติ่งไว้ แต่ดั๊นเจ้าพวกรถลากขนทองยังวิ่งกันฉลิวทั่งที่ไม่มีคนอยู่ ซึ่งตัวเราเองนี่แหละก็ต้องทำหน้าที่ไปสำรวจเมืองโดยการขึ้นเจ้ารถขนทองผีสิงอันนี้นั่นเอง 555555
โดยเส้นทางของรถไฟเหาะเครื่องนี้เค้าจะพาเราวิ่งผ่านเหมืองทองร้าง โดยไฮไลท์ของ Big Thunder Mountain Railroad ที่เรียกเสียงกรี๊ดเราจะคอแทบแตกเลยคือ เส้นทางอันคดเคี้ยวไปตามกำแพงหินแคบๆ ที่ขับผ่านลานกระดูก เหล่าน้ำพุร้อน ลอดในอุโมงค์และเลี้ยวไปมาด้วยความเร็วสูงให้เราได้กรี๊ดสนั่นลั่นโพรงเล้ย
ส่วนตัวก๊อตชอบเจ้า Big Thunder Mountain Railroad มันเป็นรถไฟเหาะฟีลสำรวจเหมืองที่สตอรี่เหมือนจะน่ากลัว แต่ไม่ได้มีอะไรให้กลัวใดๆ ความตื่นเต้นนี่บอกเลยว่ามีตลอดทั้งเส้นทาง ใครที่ชอบเล่นรถไฟเหาะพอกรุบกริบ ก๊อตแนะนำว่ามาเล่นเครื่องนี้ได้เลย
โซน Critter Country
เริ่มแรกเดิมทีโซน Critter Country นั้นเป็นโซน Indian Village ที่มาในธีมของชนพื้นเมืองอเมริกัน ก่อนจะถูกปรับเปลี่ยนพื้นที่และตั้งชื่อโซนนี้ใหม่ว่า Bear Country ที่มาในธีมป่าในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือที่เต็มไปด้วยต้าวหมีและสิงสาราสัตว์อื่นๆ และสุดท้ายในปี 1988 ได้มีการเปลี่ยนชื่อโซนใหม่อีกครั้งเป็น Critter Country เพื่อต้อนรับการมาของเครื่องเล่น Splash Mountain โดยเฉพาะ โดยโซน Critter Country จะไม่ได้กว้างมากเท่ากับโซนอื่นๆ ในสวนสนุก แต่ด้วยความปุ๊กปิ๊กของโซนนี้กลับกลายเป็นว่าโซนที่เล็กกว่าใครเพื่อน ดันเป็นโซนที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นเยอะมากกก
ทีนี้ ทุกคนรู้ไหมว่าโซน Critter Country ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคำพูดในภาพยนตร์เรื่อง Song of the South ในปี 1946 ‘ที่ที่ผู้คนใกล้ชิดกับสัตว์ร้ายมากขึ้นและสัตว์ร้ายก็ใกล้ชิดกับผู้คนมากขึ้น’ ซึ่งภายในโซนนี้เราเลยจะได้เห็นรังและโพรงของสัตว์ต่างๆ มากมายกระจายไปทั่วบริเวณ รวมถึงมีการปลูกต้นไม้มากมายเพื่อสร้างบรรยากาศให้เหมือนเราเดินอยู่ในอุทยานป่าฟีลนั้นเลย
แน่นอนว่าไฮไลท์เครื่องเล่นหลักของโซนนี้ก็คือ เจ้า Splash Mountain ที่ต้องห้ามพลาด นอกจากนี้ หากใครที่อยากถูกดูดเข้าไปในความป่าเขาลำเนาไพร นี่อยากให้ลองไปพายเรือกับ Davy Crockett Explorer Canoes กิจกรรมพายเรือแคนูลอยน้ำที่ล่องไปตามแม่น้ำ Rivers of America แบบสนุกๆ ใครที่ยังมีเวลาเหลือก็ไปต่อคิวได้เลย
Splash Mountain ⭐️⭐️
แน่นอนว่าเครื่องเล่นห้ามพลาดในโซนนี้ต้องยกให้กับ Splash Mountain ที่สร้างอิงมาจากแอนิเมชันดิสนีย์เรื่อง ‘Song of the South’ ตั้งแต่ปี 1946 นู้น โดยเครื่องเล่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นคลาสสิกที่มีทั้งใน Disneyland แคลิฟอร์เนียและ Magic Kingdom ที่ฟลอริดาด้วย โดยเราจะต้องไปนั่งในท่อนซุงยักษ์ที่ไปล่องในแม่น้ำบายู (Bayou) ที่เส้นทางคดเคี้ยวในภูเขาลูกมหึมาเพื่อติดตามเรื่องราวของ Br’er Rabbit เจ้ากระต่ายตัวเอกของเรื่อง ที่เดินทางออกจากบ้านเพื่อไปตามล่าหา ‘Laughing Place’ โดยภารกิจนี้ก็ไม่ได้ง่ายเพราะยังมีเจ้า Br’er Fox และ Br’er Bear ศัตรูของเค้าคอยออกมาไล่ลาอยู่ตลอดเวลา โดยจุดพีคของเครื่องเล่นนี้คือตอนสุดท้ายที่เราไต่ระดับขึ้นไปอยู่บนภูเขาในจุดที่สูงชันที่สุด จากนั้นเราจะโดนปล่อยทิ้งตัวลงสู่ผืนน้ำเล็กๆ ด้านล่างชนิดที่มีเวลาให้เราได้เตรียมใจเพียงแค่อึดใจเท่านั้น ซึ่งมันหวาดเสียวและสนุกมากกก 5555555
สิ่งที่ควรรู้ไว้ก่อนที่จะมาเล่นเครื่องเล่นนี้คือ เกินครึ่งของเส้นทางนั้นจะเป็นการล่องอยู่บนน้ำและบางจุดมีความกระเฉาะน้ำกระเด็นขึ้นมาด้วย ทีนี้ต้องทำใจไว้อย่างนึงเลยว่าหากเราได้นั่งด้านหน้าๆ ของขบวน โดยเฉพาะจังหวะช่วงสุดท้ายที่เราโดนทิ้งตัวปล่อยเราลงมานั้นคือมีโอกาสเปียกสูงมากๆ แต่ก็แลกมาด้วยความสนุกนะเอ้อ ดังนั้น ให้เตรียมใจไว้ก่อนได้เลย สรุปแล้ว Splash Mountain เป็นอีกหนึ่งเครื่องเล่นที่ก๊อตแนะนำเลยว่าห้ามพลาด เพราะนอกจากจะสนุกในความล่องแม่น้ำที่ลุ้นความเปียกอยู่ตลอดเวลาแล้ว ช่วงสุดท้ายก็คือพีคในความทิ้งตัวที่ทั้งหวาดเสียวและสนุกไปพร้อมกันเลย ชอบมากก!
โซน Adventureland
Adventureland โซนธีมป่าอันแสนห่างไกลที่ผสมเอาความป่าในแอฟริกา เอเชีย อเมริกาใต้ และโอเชียเนีย มารวมๆ กันออกมาในรูปแบบการผจญภัยแบบใหม่ โดย Walt Disney เค้าเคยพูดไว้ว่า ‘เราวาดภาพตัวเองให้ห่างไกลจากความศิวิไลซ์ ในป่าอันห่างไกลของเอเชียและแอฟริกา’ โดยทั้งโซนนั้นจะประดับประดาไปด้วยหน้ากากการแสดงของชนเผ่า กลองคองกา เสาโทเท็ม รูปปั้นสัตว์หายาก และสถาปัตยกรรมหลากหลายมาก
โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ตีความ Adventureland ออกมาจากการผสมความหลากหลาย โดยโซนนี้เค้ามีเครื่องเล่นหลากหลายไม่ว่าจะเป็นไฮไลท์หลักอย่างเครื่องเล่น Pirates of the Caribbean ที่ก๊อตอดเล่นเพราะช่วงที่ก๊อตไปนั้นปิดปรับปรุงอยู่,ทางรถไฟ Western River Railroad, The Enchanted Tiki Room ของ Lilo & Stitch รวมถึง Jungle Cruise: Wildlife Expeditions ให้เราได้ล่องเรือไปตามแม่น้ำ ชมโลกลึกลับของโจรสลัดและสัตว์ป่า บอกเลยว่าโซนนี้คือน้องๆ หนูๆ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่อย่างเราเองนั้นจะได้ผจญภัยเยอะมากจริงๆ
Western River Railroad
อย่างที่ก๊อตบอกไปว่าช่วงที่ก๊อตไปนั้น Pirates of the Caribbean เค้าปิดปรับปรุงพอดี นี่เดินผ่าน Western River Railroad แล้วฟีลแบบอยากนั่งพักชิลๆ บนรถไฟบ้าง หลังจากที่ต่อแถวเข้าคิวเครื่องเล่นมาแทบทั้งวัน นี่ก็เลยมานั่งเลยกับรถไฟรถไฟไอน้ำคุณปู่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1983 ระยะทางยาวกว่า 1.6 กิโลเมตร วิ่งผ่านโซนต่างๆ ในปาร์คไม่ว่าจะเป็น Adventureland, Westernland และ Critter Country
ด้วยความที่คุณปู่วิ่งแล่นผ่านโซนต่างๆ เราก็จะได้เห็นทั้งวิวและมุมลับๆ ของโซนนั้นๆ ที่เราสามารถเห็นได้เฉพาะเมื่อเรานั่งรถไฟไอน้ำนี้เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นสิงสาราสัตว์ในป่า Adventureland หรือแม้แต่กลุ่มชนเผ่าใน Critter Country รวมถึงได้กินลมชมวิวทั้ง Big Thunder Mountain และสวนสนุกในมุมมองที่กว้างขึ้นจากการรางรถไฟนั้นถูกยกสูงทำให้เราได้เห็นวิวกันแบบอิ่มเอิบเต็มที่ บอกเลยว่าชิลม๊าก นอกจากเด็กๆ ที่น่าจะชอบแล้ว ก๊อตคิดว่าเหมาะมากสำหรับคนที่เดินเล่นในสวนสนุกจนเมื่อยและต้องการมาพักขาส่องวิว เพื่อที่เราจะได้มีแรงไปพร้อมสู้ชีวิตต่อคิวเครื่องเล่นอื่นๆ ต่อนั่นเอง 5555555
ขบวนพาเหรดดิสนีย์
อีกหนึ่งสิ่งที่ห้ามพลาดเลยคือการมาดูขบวนพาเหรดของเหล่าตัวละครจากดิสนีย์ โดยที่ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) นั้นเค้าจะขบวนพาเหรด 2 แบบให้ได้ชมแบบแยกกันอย่างชัดเจนคือ ตอนกลางวันโดยในปี 2023 นั้นจะเป็นขบวนพาเหรด Disney Harmony in Color ที่พึ่งพรีเมียร์ตอนเดือนเมษายน 2023 เป็นครั้งแรก โดยเค้าจะออกมาหลายรอบเลย ส่วนพาเหรดตอนกลางคืน Tokyo Disneyland Electrical Parade Dreamlights จะออกมารอบเดียวคือตอนช่วงเกือบๆ สองทุ่ม ซยังไงอยากให้ลองเช็คช่วงเวลาพาเหรดเองอีกทีอีกครั้งน้า
สำหรับขบวนพาเหรดในช่วงกลางวันนั้น หากใครที่เคยไปดิสนีย์แลนด์ที่อื่นนั้น ก็จะมีความคล้ายกันคือการที่เหล่าตัวละครดิสนีย์ต่างๆ ขึ้นรถขบวนและทำท่าทางรวมถึงกระโดดโลดเต้นไปมา ถ้าใครที่ไม่เคยดูขบวนพาเหรดของดิสนีย์มาก่อนนี่ก็คือต้องมาดูแล้วแหละ
แต่ความพิเศษที่ก๊อตอยากแนะนำมากๆ เลยก็คือขบวนพาเหรดตอนกลางคืนกับ Tokyo Disneyland Electric Parade Dream Lights ที่ถือว่าเป็นที่สุดของที่สุดในทุกขบวนพาเหรดของดิสนีย์ทั้งหมดที่ก๊อตเคยดูมาทั้งชีวิต คือขบวนเค้ามันสวยมากกกก ด้วยการเล่นแสงสี ที่เค้าเปิดไฟกันแบบยิ่งใหญ่ เปร่งประกายแบบเรืองแสงเว่อร์ ทั้งเหล่าปราสาท รถม้า พระราชวังและพร็อพต่างๆ ของเหล่าคาแรคเตอร์ดิสนีย์ที่เห็นนั้นเหมือนออร่าพวกนางเด่นลอยออกมาได้จริงๆ เลยแหละแกร๊
นี่ถือเป็นครั้งแรกของก๊อตที่ได้มายืนดูขบวนพาเหรดดิสนีย์ในตอนกลางคืนแบบนี้ แม้ว่าส่วนตัวจะเคยไปดิสนีย์มาแล้วในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยงไฮ้ ฮ่องกง และอเมริกามาแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาสได้อยู่ดูขบวนพาเหรดตอนกลางคืนเลย ซึ่งพอได้มายืนดูจริงๆ แล้วคือตาค้าง ขนลุก สวยแบบเกินคำบรรยายจริงๆ คือดีย์ไม่ไหวและไม่อยากให้ทุกคนพลาดขบวนพาเหรดนี้เลยจริงๆ
Disney Light the Night
ธรรมเนียมในการมาเที่ยวดิสนีย์แลนด์อีกอย่างที่ต้องทำเลยคือการมาดูพลุที่ยิงขึ้นบนปราสาทเจ้าหญิงดิสนีย์ ซึ่งปกติภาพจำในหัวตอนที่ก๊อตไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์มาทั่วโลกคือ โชว์พลุเค้าอลังการม๊าก ทั้งจำนวนพลุที่โคตรเยอะยิงขึ้นไปปุ้งปั้งบนท้องฟ้าห้อมล้อมตัวปราสาทเอาไว้ พร้อมกับสีสันด้วยการฉายสปอร์ตไลต์และเอฟเฟ็คต่างๆ ไปยังตัวปราสาท
แต่วันที่ก๊อตไปนั้น ไม่รู้ว่าตัวเองแต้มบุญหมดสิ้นหรือมันยังไง๊ แกรนี่งงมากก เพราะคาดหวังว่าจะต้องได้ดูพลุสวยๆ สุดอลังแบบจึ๊งๆ ติดตากลับบ้าน แต่ของจริงที่ไปเจอคือยิงมีพลุอยู่แค่กระตึ๋งเดียวแบบง่อยๆ ฟีลจุดขึ้นไปแตกเปาะแปะบนอากาศพอเป็นพิธีแล้วก็หมด จบกันกับภาพที่คิดไว้ เพราะในความรู้สึกคือผิดหวังมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโควิด หรือเพราะเค้าเพิ่งเปิดประเทศ พลุมันถึงได้หดเหลือแค่นี้ แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ที่ทุกคนอ่านรีวิวและได้ไปเที่ยวจริง เค้าอาจจะทำโชว์พลุแบบอลังการปกติแล้ว ยังไงก๊อตก็ยังเชียร์ให้ทุกคนอยู่ที่ปาร์คจนค่ำและเฝ้ารอคอยดูพลุอยู่ดี เพราะถ้าความอลังปังๆ กลับมา บอกเลยว่าเราจะประทับใจกับการเที่ยวดิสนีย์มากกว่าเดิมแน่นอน
สรุปการมาเที่ยวโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
สรุปความรู้สึกโดยรวมหลังจากได้ไปเที่ยวที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) มาตลอดทั้งวัน โดยรวมแล้วก๊อตยังรู้สึกประทับใจอยู่ดี แม้เราจะผิดหวังเรื่องพลุไปหน่อย แต่โซนต่างๆ และเครื่องเล่นของเค้าถือว่าทำดีและยังสนุกมาก ถึงแม้คนจะมาเที่ยวกันเยอะเต็มสวนสนุก แต่ด้วยความญี่ปุ่นนั้นไม่ได้มีความวุ่นวาย และยังมีความมุ้งมิ้งตามสไตล์คนญี่ปุ่นแหละ ส่วนของซื้อของฝากดิสนีย์ที่นี่ก็มีความน่ารักแบบญี่ปุ๊นนน ญี่ปุ่น ที่ก๊อตบอกเลยว่าทำออกมาได้ดีกว่าหลายประเทศมาก ปิดจบเลยแล้วกันว่าดี และยังคงประทับใจกับการเที่ยวดิสนีย์แลนด์ทุกครั้ง แต่รอบนี้ขอหักแต้มจากพลุกระตึ๋งนึงออกไปหน่อย ช๊อตฟีลมาก แบบ 3 ล้านโวลล์สุด
อย่างไรก็ตาม ใครที่มาเที่ยวญี่ปุ่นแล้วจะมาเที่ยวสวนสนุกดิสนีย์ด้วยล่ะก็ ก๊อตก็ยังแนะนำให้เก็บหมดทั้งสองปาร์ค เพราะมันไม่เหมือนกันเลย ฟีลลิ่งและความสนุกนั้นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้น มาเที่ยวทั้งทีก็เก็บให้ครบๆ ไปเล้ย 55555
> อ่านรีวิวโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
> ซื้อบัตรโตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
> ซื้อบัตรโตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea) [ซื้อผ่าน Klook] / [ซื้อผ่าน KKday]
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
รีวิวสวนสนุกทั่วโลกจาก HASHCORNER 💛💙🧡
ส่วนตัวเป็นคนที่ชอบเล่นสวนสนุกมากกกกก นี่ก็พยายามจะเก็บแต้มสวนสนุกทั่วโลกแล้วเอามาเขียนรีวิวแบบละเอียดๆ ให้ทุกคนได้อ่านและตามกันเนอะ สำหรับใครที่มีแพลนไปเที่ยวสวนสนุกที่ไหนตามลิสด้านล่างนี้ คลิกอ่านรีวิวได้เล้ยย
1. Universal Studios Japan (USJ) / โอซาก้า ญี่ปุ่น
2. Universal Studios Singapore (USS) / สิงคโปร์
3. Tokyo Disneyland / โตเกียว ญี่ปุ่น
4. Tokyo DisneySea / โตเกียว ญี่ปุ่น
5. Hong Kong Disneyland / ฮ่องกง
6. Shanghai Disneyland / เซี่ยงไฮ้ จีน
7. Disneyland Paris / ปารีส ฝรั่งเศส
8. Disneyland Park California / แคลิฟอร์เนีย อเมริกา
9. Disney California Adventure Park / แคลิฟอร์เนีย อเมริกา
10. Universal Studios Hollywood / ลอสแองเจลิส อเมริกา
11. Fuji-Q Highland / คาวากุจิโกะ ญี่ปุ่น
12. Lotte World | โซล เกาหลีใต้ กำลังเขียน
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡