ฮิเมจิ (Himeji) เมืองที่ปราสาทสีขาวที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งการมาเที่ยวฮิเมจิของก๊อตนั้น คือนั่งรถไฟมาจาก โกเบ (Kobe) แบบชิลๆ เที่ยวสั้นๆ ภายในวันเดียว โดยมีแลนด์มาร์คหลักอย่าง ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) และสวนญี่ปุ่นอันสวยงามอย่าง สวนโคโคเอ็น (Koko-en Garden) ตั้งเคียงข้างปราสาทฮิเมจินี่เอง
สำหรับการมาเที่ยว ฮิเมจิ (Himeji) ของก๊อตครั้งนี้ มีเรื่องน่าเสียดายอยู่ 2 อย่าง อย่างแรกคือ น่าจะมาช่วงซากุระผลิ เพราะนี่ได้เห็นรูปจากรีวิวต่างๆ แล้วสวยเว่อร์วังอลังการมาก ซึ่งเค้าบอกกล่าวกันว่าเมืองฮิเมจิ เป็นอีกเมืองหนึ่งที่เราสามารถดูซากุระได้สวยที่สุดเมืองหนึ่งของญี่ปุ่น ส่วนรีวิวที่พวกแกรจะได้อ่านกันนี้คือหน้าร้อนนะแจ๊ะ แดดร้อนจ้า ต้นไม้เขียวชะอุ่ม 555555
ส่วนอย่างที่สองคือ จริงๆแล้วยังมีอีกที่ที่ตั้งใจอยากไปในเมืองฮิเมจิ คือ วัดเอ็นเกียวจิ บนภูเขาโซะซะซัน (Shoshazan Engyo-ji temple) กับวัดบนภูเขาที่เคยเป็นสถานที่ทำถ่ายหนังชื่อดังของญี่ปุ่น โดยเหตุผลที่ก๊อตพลาด เพราะมาถึงเมืองฮิเมจิสายไปนิด และกะเวลาในการเที่ยวชมในปราสาทพลาดไปหน่อย ดังนั้น ใครที่ยังพอมีเวลาเหลือให้เที่ยวในเมืองฮิเมจิ ก็ลองเซิร์จหากันดูว่าน่าไปมั้ยนะแจ๊ะ
พาสรถไฟที่ใช้เที่ยวเมืองฮิเมจิ (Himeji) ได้
มีพาสรถไฟหลายตัวมากที่สามารถใช้นั่งรถไฟมาเที่ยวฮิเมจิได้นะ หลายคนอาจจะงวยงงว่าใช้อันไหน อันนี้ก็ต้องดูแพลนเที่ยวญี่ปุ่นแต่ละคนแล้วว่าไปไหนบ้าง ดังนั้น ก๊อตเลยลิสพาสรถไฟต่างๆมาให้ว่าพาสไหนเหมาะหรือเข้าพอดีกับแพลนตัวเอง อาจจะลองดูว่าเราลงสนามบินไหนเป็นต้นทางก่อนก็ได้ แล้วส่องดูแพลนต่างๆ ของตัวเองว่าจะไปเมืองไหนบ้าง เมื่อเรามั่นใจแล้วก็ซื้อพาสรถไฟเพื่อความประหยัดและสะดวกสบายในการเดินทางด้วยรถไฟได้เลย! สามารถเทียบราคาทั้ง Klook และ KKday ได้เลยนะ ราคาจะขึ้นลงตามเรทค่าเงินเยน <-> บาท นะครับโผมม
- 🎫 Kansai Thru Pass (⭐️ แนะนำเพราะคุ้มค่าตัวสุด): นั่งได้เกือบทุกอย่าง และเกือบทุกบริษัทของระบบขนส่งในแถบคันไซ ยกเว้นรถไฟ JR ที่ไม่สามารถใช้ได้ / ครอบคลุมการเที่ยวเมืองเด่นๆ อย่าง โอซาก้า เกียวโต โกเบ นารา ฮิเมจิ และวากายาม่า / มีแบบ 2, 3 วัน ราคาเริ่มต้น ~1,125 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Kansai Area Pass : เฉพาะสายรถไฟ JR ครอบคลุมการเที่ยวเมื่อเด่นๆ อย่าง โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ และ ฮิเมจิ / ใช้นั่ง Kansai-Airport Express Haruka จากสนามบินคันไซ (KIX) ได้ / มีแบบ 1, 2, 3, 4 วัน ราคาเริ่มต้น ~620 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Kansai WIDE Area Pass : เฉพาะสายรถไฟ JR ครอบคลุมการเที่ยวเมืองเด่นๆ อย่าง โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ วากายาม่า ฮิเมจิ และ โอคายาม่า / สามารถนั่ง Sanyo Shinkansen ไปกลับ โอซาก้า-โกเบ-โอคายาม่า ได้ / ใช้นั่ง Kansai-Airport Express Haruka จากสนามบินคันไซ (KIX) ได้ / มีแบบ 5 วัน ราคาราวๆ ~2,530 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Kansai Hiroshima Area Pass : (ก๊อตใช้พาสนี้ในรีวิวนี้) เฉพาะสายรถไฟ JR ครอบคลุมการเที่ยวเมืองเด่นๆ อย่าง โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ วากายาม่า ฮิเมจิ โอคายาม่า และ ฮิโรชิม่า/ สามารถนั่ง Sanyo Shinkansen ไปกลับ โอซาก้า-โกเบ-โอคายาม่า-ฮิโรชิม่า ได้ / ใช้นั่ง Kansai-Airport Express Haruka จากสนามบินคันไซ (KIX) ได้ / มีแบบ 5 วัน ราคาราวๆ ~3,800 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Sanyo-San’in Area Pass : เฉพาะสายรถไฟ JR สำหรับเที่ยวเมืองเด่นๆ อย่าง โอซาก้า เกียวโต นารา โกเบ วากายาม่า ฮิเมจิ โอคายาม่า ฮิโรชิม่า และ ฟุกุโอกะ / สามารถนั่ง Sanyo Shinkansen ไปกลับ โอซาก้า-โกเบ-โอคายาม่า-ฮิโรชิม่า-ยามากุจิ-ฮากาตะ (ฟุกุโอกะ) ได้ / ใช้นั่ง Kansai-Airport Express Haruka จากสนามบินคันไซ (KIX) ได้ / มีแบบ 7 วัน ราคาราวๆ ~5,150 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
- 🎫 Japan Rail Pass – All Area (JR Pass) : สามารถใช้ขึ้นรถไฟ JR ได้ทั่วประเทศ รวมถึงรถไฟหัวกระสุน Shinkansen เกือบทุกสาย ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีแบบ 7, 14, 21 วัน ราคาราวๆ ~7,540 บาท [ซื้อผ่าน Klook] [ซื้อผ่าน KKday]
แพลนเที่ยวญี่ปุ่น โอซาก้า-โกเบ-ฮิเมจิ-โอคายาม่า-ฮิโรชิม่า
แนะนำ พาสรถไฟ JR Kansai Hiroshima Area Pass
ญี่ปุ่นรอบนี้ เป็นการมาเที่ยวแถบคันไซ (รอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้) ซึ่งก๊อตเองได้มาเที่ยวกับแม่สองคนและตั้งใจมาเก็บคันไซฝั่งซ้ายยาวไปถึงภูมิภาคชูโกกุ โดยเฉพาะ ฮิโรชิม่า (Hiroshima) เพื่อไปเก็บแลนด์มาร์คเสาโทริอิขึ้นชื่อ จากนั้นก็กลับมาทางโอซาก้าเรื่อยๆ โดยผ่านทั้งโอคายาม่า (Okayama), ฮิเมจิ (Himeji) และ โกเบ (Kobe) นั่นเอง ซึ่งพาสที่เหมาะสุดกับแพลนนี้ของก๊อตนั้นคือ JR Kansai Hiroshima Area Pass แบบ 5 วัน ในราคา 13,700 เยนนี่แหละ คุ้มสุดแล้วเว้ย
จริงๆ พาสนี้มันไปที่อื่นได้อีกเยอะนะ เพราะมันครอบคลุมทั้งภูมิภาคคันไซ แต่อันนี้เป็นความตั้งใจของก๊อตเองที่จะเก็บฮิโรชิม่าด้วย เลยเลือกเที่ยวเก็บเมืองทางฝั่งนี้ที่บอกไปนั่นเอง โดยวิธีการซื้อก็เหมือนเดิมคือ ซื้อพาสเว็บ KLOOK และไปแลกเป็นพาสจริงที่สนามบินคันไซ จากนั้นก็ใช้ได้เลย โดยการไปทุกเมืองที่ก๊อตบอกไปนั้นใช้รถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นทั้งทริป ดังนั้น คุ้มแน่นอน
วันที่ | ตัวอย่างการใช้พาส JR Kansai Hiroshima Area Pass |
1 | - เดินทางจากโอซาก้า > ฮิโรชิม่า - เที่ยวเกาะมิยาจิม่า (ฮิโรชิม่า) |
2 | - เที่ยวฮิโรชิม่า |
3 | - เดินทางจากฮิโรชิม่า > โอคายาม่า - เที่ยวโอคายาม่า |
4 | - เดินทางจากโอคายาม่า > ฮิเมจิ - เที่ยวฮิเมจิ (ฝากกระเป๋าที่สถานีรถไฟ) - เดินทางจากฮิเมจิ > โกเบ |
5 | - เที่ยวโกเบ |
ราคาปกติหากไม่ใช้พาส: 25,290 เยน* (คิดโดยการใช้รถไฟชินคันเซ็นระหว่างเมืองทั้งหมด) ราคาพาส JR Kansai Hiroshima Area Pass: 13,700 เยน |
ซื้อพาส JR Kansai Hiroshima Area Pass จาก KLOOK ข้างล่างนี้เลย
ส่วนลด KLOOK ประจำเดือน คลิกที่นี่
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นโอซาก้า-โกเบ-ฮิเมจิ-โอคายาม่า-ฮิโรชิม่า
1. โอซาก้า (Osaka)
2. โกเบ (Kobe)
3. ฮิเมจิ (Himeji)
4. โอคายาม่า (Okayama)
5. เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
6. ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
แพลนเที่ยวเมืองฮิเมจิ (Himeji)
สำหรับ แพลนเที่ยวเมืองฮิเมจิ (Himeji) ของก๊อตนั้น วางไว้ทั้งหมดแค่วันเดียวตามแพลนเที่ยวด้านบน ใครที่กำลังแพลนเที่ยวญี่ปุ่นโซนนี้อยู่ สามารถเอาแพลนฮิเมจิด้านล่างนี้ไปปรับแต่งตามใจชอบของแต่ละคน จากนั้นเอาต่อจิ๊กซอว์กับเมืองอื่นๆ ต่อได้เล้ยย
วัน | ที่เที่ยวฮิเมจิ (Himeji) |
1 | – ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) – สวนโคโคเอ็น (Koko-en Garden) |
ส่วนลด OTA | ส่วนลด Klook / ส่วนลด Agoda / ส่วนลด Booking / ส่วนลด Expedia |
รีวิวเที่ยวญี่ปุ่นในภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
- รีวิว โอซาก้า (Osaka)
- รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
- รีวิว เกียวโต (Kyoto)
- รีวิว นารา (Nara)
- รีวิว โกเบ (Kobe)
- รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
ข้อมูลแน่นปึ๊กแล้ว มาเที่ยวกันดีกว่า!
ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)
หลังจากลงสถานีรถไฟฮิเมจิ (JR Himeji Station) แล้ว ใครที่แข็งแรงอยากเดินก็สามารถเดินตรงยาวไปยัง ปราสาทปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ได้เลย ระยะทางแค่ 900 เมตรเท่านั้น แต่ถ้าใครขี้เกียจก็หาแท็กซี่ขึ้น หรือเดินมาฝั่งซ้ายของสถานีเพื่อขึ้นรถเมล์โลด เค้าจะมีป้ายรถเมล์ตั้งเรียงรายอยู่ เราสามารถขึ้นรถเมล์จากป้ายรถเมล์หมายเลข 3, 6, 7, 9, 10 ได้ในราคาแค่ 100 เยน เท่านั้น เมื่อเรามาถึงแล้ว อย่ารอช้า เข้าไปเที่ยวปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) กันเถอะ
เค้าบอกกันว่า ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ถือเป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่สำคัญที่สุดของญี่ปุ่น มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากกว่า 600 ปี และเป็นสถานที่แรกในญี่ปุ่นที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จาก UNESCO อีกด้วย จะบอกว่าคนญี่ปุ่นหลายคนตั้งชื่อเล่นของปราสาทนี้ว่า ‘ปราสาทนกกระสาขาว’ นะเออ ด้วยความที่ปราสาทนั้นมีสีขาวเกือบทั้งหลัง แถมบางมุมยังเหมือนรูปนกที่กำลังจะออกตัวบินอีกกก // จากใจ นี่มองไม่ออกแหะ ว่ามันเหมือนนกจะบินยังไง 55555555
มีเรื่องที่เป็นที่กล่าวขวัญกันสำหรับ ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) คือ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี 1945 ที่อเมริกานำเครื่องบินจำนวน 107 ลำที่ขนระเบิดหนักเกือบ 767 ตัน ทิ้งระเบิดถล่มเมืองฮิเมจินั้น ทั้งเมืองคือเสียหายไปเยอะมากกว่า 60% แต่ที่คนเค้าเซอร์ไพรส์กันคือ ปราสาทฮิเมจิยังคงตั้งตระหง่านไร้ความเสียหาย ถึงแม้จะมีระเบิดหนึ่งลูกทิ้งลงมายังปราสาทก็เหอะ จากเหตุการณ์นี้ คนญี่ปุ่นเค้าก็เลยชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้ช่วยปกป้องปราสาทนี้ไว้นั่นเอง
สำหรับการเที่ยวในปราสาท ถ้าเที่ยวแบบจริงจังและเดินให้ทั่วถึง จะบอกว่ามันกินเวลาไปครึ่งวันเลยเด้อ เพราะพื้นที่ปราทเค้าใหญ่และมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะม๊าก แต่ถ้าเราอยากเที่ยวแบบเร็วๆ ให้เราเที่ยวเฉพาะตัวปราสาทหลักก็พอ ซึ่งรูทการเดินเส้นทางหลักของปราสาทฮิเมจินั้น คือการเดินวนขึ้นไปยังตัวปราสาทหลักทั้งหมด 6 ชั้น โดยด้านใน เราจะได้เห็นส่วนประกอบหลักของปราสาทไม้หลังนี้ ทั้งพวกเสาเอก คานไม้ ประตูไม้ล็อคสองชั้น รวมถึงห้องต่างๆเยอะแยะมาก
ส่วนตัวคิดว่าภายใน ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ เป็นห้องโล่งๆให้เราเดินเพลินๆมากกว่า แนะนำเดินชิลๆ แล้วขึ้นไปชั้นบนสุดที่เป็นไฮไลท์ ที่มีศาลเจ้าโอซาคาเบะจินจา (Osakabe-jinja Shrine) ตั้งอยู่ รวมถึงวิวสวยๆของเมืองฮิเมจิให้เราได้ดูจากด้านบนนั่นเอง
ถ้าคิดว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ เลี้ยงกาแฟก๊อตซักแก้วได้นะครับ 😆💙
จะได้มีแรงใจทำรีวิวออกมาให้ทุกคนได้อ่านเรื่อยๆ ครับ
เสร็จจากการเดินเที่ยวตัวปราสาทหลักแล้ว ใครที่อยากเดินเล่นภายในพื้นที่ตัวปราสาท สามารถเดินชิลๆ ได้เลย ส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่แล้วแหละ แต่นี่ลองเดินมาต่อยังสวนทางด้านซ้ายของปราสาทที่มีโถงทางเดิน ฮยักเคน-โรคะ (Long Hyanken-roka Corridor) ด้านในไม่มีไรเลย เป็นทางยาวโล่งๆ เสมือนไม่มีที่สิ้นสุด แถมยังไร้ผู้คนอีก ที่อยากเล่าคือ พีคมากตรงทางออกที่ห้องสุดท้าย มีรูปปั้นผู้หญิงนั่งอยู่ในห้องเสื่อญี่ปุ่นกว้างๆ แว๊บแรกที่เห็นรูปปั้นคือหัวใจวายมากกกกกกก ตกใจขั้นสุดนึกว่าเจอแล้วไง เจอแล้วไงงง ฮือออ นี่ยังจำความรู้สึกนั้นได้จนถึงตอนนี้ ก็นั่นแหละ นี่อยากเล่าให้ฟังเฉยๆ 5555555555
สวนโคโคเอ็น (Koko-en Garden)
เรามาเที่ยวกันต่อกับ สวนโคโคเอ็น (Koko-en Garden) สวนญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ติดกับด้านข้างของ ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นพื้นที่ปราสาทที่ซามูไรอาศัยอยู่สมัยก่อน ต่อมาที่นี่จึงถูกแยกออกมาและเปลี่ยนเป็นสวนญี่ปุ่นแห่งใหม่เพื่อเฉลิมฉลองการครอบรอบ 100 ปี ของเมืองฮิเมจิ เต็มไปด้วยสวนญี่ปุ่นหลากหลายสไตล์ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่มากถึง 9 แบบแน่ะ สำหรับค่าเสียหายของการเข้าชมที่นี่จะอยู่ที่ 300 เยน เน้อ
ส่วนตัวค่อนข้างชอบที่นี่มาก เราสามารถเดินชิลๆตามรูททางเดินที่เค้าจัดไว้ให้ ผ่านไปยังสวนญี่ปุ่นทั้งหมด 9 แบบ ซึ่งทั้งหมดคือร่มรื่นและจัดเค้าจัดสวนได้สวยจริง โดยเฉพาะสวนแบบแรกที่มีทั้งบ่อปลาคาร์ฟขนาดใหญ่ น้ำตก บ้านน้ำชา รวมๆคือสวยม๊าก นี่ขนาดมาในฤดูที่ต้นไม้เขียวๆ ปกตินี่ยังสวย แล้วถ้ามาฤดูใบไม้ร่วง หรือช่วงซากุระ มันจะสวยขนาดไหนกัน เอ้อ อันนี้แนะนำแหละ
เดินชมสวนทั้งหมด 9 แบบ เสร็จเรียบร้อย จากขามาที่นี่นั่งรถเมล์จากสถานีรถไฟมา ขากลับนี่ขอเดินเล่นชมเมืองไปเรื่อยๆซักหน่อย ต้องบอกว่าโคตรดีย์ ถนนตรงส่วนที่เชื่อมกันระหว่างปราสามฮิเมจิ และสถานีรถไฟคือโคตรกว้าง และเมื่อเราเดินถึงสถานีรถไฟแล้วหันย้อนมองไปยังปราสาทอีกครั้งนั้น แม่งสวยจับใจจริงๆ
และทั้งหมดนี้แหละคือการเที่ยวฮิเมจิแบบสั้นๆ ของก๊อตเอง 💙
อ่านรีวิวเมืองนี้จบแล้ว
อ่านรีวิวเมืองอื่นในญี่ปุ่นต่อกันเลย 🤗
ญี่ปุ่นเป็นประเทศไม่กี่ประเทศที่นี่รู้สึกว่า ไปกี่ครั้งก็ไม่น่าเบื่อ ไปแล้วไปอีกได้ตลอด และยังประเทศที่ตัวเองตั้งมิชชั่นว่า อยากจะเก็บให้หมดทั่วประเทศ ฮ่าา เอาเป็นว่า HASHCORNER นี่ก็มีรีวิวญี่ปุ่นให้อ่านและตามรอยเยอะพอสมควร ทั้งหมดนับแล้วเกือบ 50 รีวิวแล้ว เยอะโคตร ใครที่มีแพลนไปเมืองไหนในญี่ปุ่นที่มีชื่อเมืองตามลิสด้านล่าง สามารถคลิกลิงค์อ่านต่อได้เล้ย
ภูมิภาคคันโต (Kanto Region)
1. รีวิว โตเกียว (Tokyo)
2. รีวิว โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland)
3. รีวิว โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo DisneySea)
4. รีวิว Harry Potter: Warner Bros. Studio Tour Tokyo
5. รีวิว โยโกฮาม่า (Yokohama)
6. รีวิว คามาคุระ (Kamamura)
7. รีวิว นิกโก้ (Nikko)
8. รีวิว ฮาโกเน่ (Hakone)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคันไซ (Kansai Region)
9. รีวิว โอซาก้า (Osaka)
10. รีวิว Universal Studios Japan (USJ)
11. รีวิว เกียวโต (Kyoto)
12. รีวิว นารา (Nara)
13. รีวิว โกเบ (Kobe)
14. รีวิว ฮิเมจิ (Himeji)
15. รีวิว อิเสะ-ชิมะ (Ise-Shima) กำลังเขียน
16. รีวิว อิกะ อุเอโนะ (Iga Ueno) กำลังเขียน
17. รีวิว อะซุกะ (Asuka) กำลังเขียน
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูบุ (Chubu Region)
18. รีวิว คานาซาวะ (Kanazawa)
19. รีวิว ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go)
21. รีวิว ทาคายาม่า (Takayama)
21. รีวิว คาวากุจิโกะ (Kawaguchigo)
22. รีวิว สวนสนุก Fuji-Q Highland
23. รีวิว ยามานากะโกะ (Yamanakako)
24. รีวิว ชิซึโอกะ (Shizuoka)
25. รีวิว อิซุ (Izu) กำลังเขียน
26. รีวิว คาวาซึ (Kawazu)
27. รีวิว อิโต (Ito) กำลังเขียน
28. รีวิว อาตามิ (Atami)
29. รีวิว คารุอิซาวะ (Karuizawa)
30. รีวิว นากาโน่ (Nagano)
31. รีวิว มัตสึโมโตะ (Matsumoto)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคคิวชู (Kyushu Region)
32. รีวิว ฟุกุโอกะ-ดาไซฟุ (Fukuoka-Dazaifu)
33. รีวิว นางาซากิ (Nagasaki)
34. รีวิว ยูฟูอิน (Yufuin)
35. รีวิว คุมาโมโตะ (Kumamoto)
36. รีวิว ภูเขาไฟอะโสะ (Mount Aso)
37. รีวิว ทาคาชิโฮ (Takachiho)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคโอกินาว่า (Okinawa Region)
38. รีวิว โอกินาว่า (Okinawa)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคฮอกไกโด (Hokkaido Region)
39. รีวิว ซัปโปโร (Sapporo)
40. รีวิว โอตารุ (Otaru)
41. รีวิว อาซาฮิกาวะ-บิเอะ (Asahikawa-Biei)
42. รีวิว อะบาชิริ-คุชิโระ (Abashiri-Kushiro)
43. รีวิว ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
⸺⸺⸺⸺
ภูมิภาคชูโกกุ (Chugoku Region)
44. รีวิว ฮิโรชิม่า (Hiroshima)
45. รีวิว เกาะมิยาจิม่า (Miyajima)
46. รีวิว โอคายาม่า-คุราชิกิ (Okayama-Kurashiki)
⸺⸺⸺⸺
แนะนำโรงแรม / พาสรถไฟ
47. แนะนำที่พักในโตเกียว (Tokyo)
48. แนะนำที่พักในโอซาก้า (Osaka)
48. แนะนำที่พักในเกียวโต (Kyoto)
49. แนะนำที่พักในฟุกุโอกะ (Fukuoka)
50. แนะนำที่พักในนิกโก้ (Nikko)
51. เรื่องต้องรู้ก่อนซื้อ JR PASS
ส่วนลดจองโรงแรมจาก Agoda, Expedia, Booking และบัตรสวนสนุก ตั๋วรถไฟ กิจกรรมท่องเที่ยวจาก Klook และ KKday ปี 2023
⚡️ สำหรับใครที่กำลังจะจองที่พักและหาส่วนลดจองโรงแรมอยู่ ลองดูตามลิงค์ด้านล่างได้เลย มีทั้ง Agoda, Expedia, Booking รวมถึง Hotels.com ด้วย ประหยัดไปได้อีกเกือบ 10-20% ใช้ได้กับโรงแรมทั่วโลก
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าเว็บไซต์จองโรงแรมพวกนี้ มีส่วนลดท็อปอัพจากบัตรเครดิตเพิ่มเกือบทุกธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต Citibank, KBANK, SCB, Krungsri, KTC, Bangkok Bank, UOB และ TMB หรือแม้แต่ส่วนลดจากค่ายมือถืออย่าง AIS, DTAC หรือ True ซึ่งส่วนลดพวกนี้จะเปลี่ยนตลอดทุกเดือน และเก๊าก็อัพเดทให้ตลอดเวลาเน้อ 🧡
5 comments
รอรีวิวเกียวโตค่าาา
ชอบดูรีวิวของน้องมากๆเลยค่ะ^^
ขอบคุณนะคร้าบ 😀